อิหร่านประณามสหรัฐฯ เพิ่มความตึงเครียด ยุโรปเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงความรุนแรง

03 กุมภาพันธ์ 2567, 19:26น.


          ความคืบหน้ากรณีที่สหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธในอิรักและซีเรีย โดยระบุว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน โจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ซึ่งทำให้อิหร่าน อิรัก และซีเรียประณามสหรัฐฯ อย่างรุนแรง เพราะเห็นว่ามีแต่จะเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคเท่านั้น



          ทางการอิรักเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 16 รายรวมทั้งพลเรือน ส่วนกลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 18 ราย





          นาย นัสเซอร์ คานาอานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เปิดเผยว่า เป็นการโจมตีที่ละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของอิรักและซีเรีย กฎหมายระหว่างประเทศ และถือเป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติอย่างชัดเจน นายคานาอานี ยังกล่าวเชื่อมโยงไปถึงความขัดแย้งอื่นๆ ในภูมิภาค โดยชี้ว่าสหรัฐฯ คือผู้สนับสนุนระบอบไซออนิสต์โจมตีฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ มีการโจมตีเยเมน จนถึงการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ โจมตีซีเรียและอิรักเมื่อคืนนี้ ถือเป็นปฏิบัติการที่เพิ่มความเสี่ยง เป็นข้อผิดพลาดทางยุทธศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มความตึงเครียดและความไม่มั่นคงในภูมิภาค และเห็นว่า เป็นการโจมตีที่สนับสนุนเป้าหมายของระบอบไซออนิสต์ เพิ่มบทบาทของสหรัฐฯ ในภูมิภาค และบดบังการก่ออาชญากรรมในฉนวนกาซา



          สำนักนายกรัฐมนตรี โมฮัมเหม็ด ชีอะห์ อัล-ซูดานี แห่งอิรัก ออกแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐฯ ทำลายระบบการรักษาความปลอดภัยในอิรักและภูมิภาค ทั้งยืนยันว่าข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ไม่จริง เพื่อให้นานาชาติเข้าใจผิด ทั้งเห็นว่า การมีอยู่ของกลุ่มพันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ ทำให้เกิดการคุกคามความมั่นคงและทำลายเสถียรภาพในอิรัก ทำให้อิรักต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ



          กระทรวงการต่างประเทศซีเรีย มีความเห็นว่า เป็นการโจมตีเพื่อสร้างความขัดแย้งในตะวันออกกลางในลักษณะที่อันตรายอย่างยิ่ง ขณะที่กองทัพซีเรียเพิ่มเติมว่าพื้นที่ทางตะวันออกที่ถูกโจมตี เป็นพื้นที่เดียวกันกับที่กองทัพอาหรับซีเรียกำลังต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย ปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐฯ ในครั้งนี้คือความพยายามที่จะลดความสามารถของกองทัพ 



          ในสหภาพยุโรป นายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายการต่างประเทศ กล่าวเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยง ไม่ทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย โดยเปรียบเทียบว่า ตะวันออกกลางในเวลานี้ “คือหม้อต้มน้ำที่สามารถระเบิดได้” เพราะมีทั้งสงครามในฉนวนกาซา ความรุนแรงตามแนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอน การวางระเบิดในอิรักและซีเรีย และการโจมตีการขนส่งในทะเลแดง



          รัฐบาลสหราชอาณาจักร มีแถลงการณ์ว่า สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาเป็นพันธมิตรที่แน่วแน่ จึงไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับปฏิบัติการของสหรัฐฯ แต่สนับสนุนสิทธิในการตอบโต้เมื่อถูกโจมตี พร้อมประณามการกระทำของอิหร่านที่บ่อนทำลายเสถียรภาพทั่วทั้งภูมิภาคมาเป็นเวลานาน ด้วยการสนับสนุนทางการเมือง การเงิน และการทหารต่อกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่ม



          ส่วนความเห็นของนักวิชาการ นายโจชัว แลนดิส รองศาสตราจารย์และผู้อำนวยการศูนย์ตะวันออกกลางศึกษาที่มหาวิทยาลัยโอคลาโฮมา บอกกับอัลจาซีเราะห์ว่า นักการเมืองในสหรัฐฯ กำลังกดดันประธานาธิบดี โจ ไบเดน ให้ยกระดับการตอบโต้ที่รุนแรงยิ่งขึ้นในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้เข้ามาแล้ว แต่ในขณะเดียวกันสหรัฐฯไม่ต้องการให้สถานการณ์บานปลาย ทำให้สหรัฐฯเลือกที่จะโจมตีซีเรียเพราะเป็นเรื่องง่ายและไม่มีใครสนใจรัฐบาลซีเรีย แต่ชาวอเมริกันสนใจอิรักและไม่ต้องการถูกไล่ออกจากอิรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ภาพที่ออกมาจึงมีความเสียหายเกิดขึ้นในซีเรียมากกว่าในอิรัก



....



#สหรัฐฯ



#อิหร่าน



#อิรัก



#ซีเรีย



#สหภาพยุโรป

ข่าวทั้งหมด

X