นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการส่งความเห็นกรณีแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญว่า ทุกกระทรวงได้ส่งความเห็นมาครบแล้ว และยังมีนักวิชาการที่เสนอความเห็นเข้ามามาก ส่วนองค์กรอิสระนั้นได้ส่งความเห็นที่เป็นผลกระทบต่อหน่วยงาน เช่นความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีข้อท้วงติงเรื่องการควบรวมกับกรรมการสิทธิมนุษยชน และกรณีป.ป.ช. ที่เป็นห่วงในด้านการใช้อำนาจต่างๆ และมีความเป็นไปได้ที่ กมธ. ยกร่าง รธน. อาจจะมีการตัดมาตราในร่าง รธน. ออก โดยเฉพาะมาตรา 181,182 อย่างไรก็ตามกมธ. ยกร่าง รธน. มีเวลา 60 วัน ในการแปรญัติ
ส่วนในวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมร่วมระหว่าง ครม.และคสช. ในกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 57 เพื่อเปิดทางให้มีการทำประชามติ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำประชามติหรือไม่ ส่วนเรื่องร่างรัฐธรรมนูญคงไม่มีการพูดในวันนั้น เพราะ ครม.และ คสช.จะแยกไปหารือพูดคนละเวที และหลังการประชุมร่วมระหว่าง คสช.และ ครม.จะเป็นการประชุมเฉพาะ ครม. ในการเสนอความเห็นที่ได้รวบรวมจากกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ จากนั้นจะให้ครม. ตัดสินใจเห็นชอบในประเด็น แก้ไขถ้อยคำซึ่งอ่านแล้วไม่เกิดความเข้าใจ และบางเรื่องควรจะบัญญัติเป็นมาตราในรัฐธรรมนูญหรือไม่ เรื่องที่น่าจะเพิ่มบทบัญญัติ รวมทั้งบทบัญยัติที่ควรทบทวนหรือตัดออก
ส่วนกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย (พท.) วิจารณ์การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ในทำนองว่า ไม่สอดคล้องกับประเทศไทยนั้น นายวิษณุกล่าวว่า รัฐบาลถึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญ 3 คนจากต่างประเทศเข้ามาให้ความเห็นต่อรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดการมีขึ้นในช่วงวันที่ 20 - 30 พฤษภาคม นอกจากนี้ยังมองว่าข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่บอกว่าการใช้กฎหมายพิเศษนั้นดีแก้ไขปัญหาได้ แต่รัฐบาลใหม่ไม่มีกฎหมายพิเศษเหล่านั้นดังนั้น ตอนนี้คือการวางระบบให้คนที่มาใหม่ได้ใช้ระบบนั้น ซึ่งเป็นข้อเสนอแนะที่ดี นายวิษณุ ยังได้กล่าวถึงการปราบปรามการทุจริตในแวดวงข้าราชการว่า ต้องจริงจังในการบังคับใช้กฎหมาย ให้ความเป็นธรรม และระวังการกลั่นแกล้ง ซึ่งต้องใช้หลักฐานที่องค์กรต่างๆ มีอยู่