มติเอกฉันท์!ศาลรธน.สั่ง 'พิธา-ก้าวไกล'เลิกหาเสียงแก้ไขมาตรา112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ

          ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัย คดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ผู้ร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในขณะนั้นผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

          โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ 

          โดยศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าการเสนอแก้ไข มาตรา112 และ การหาเสียงของ ผู้ถูกร้องที่ 1 และ 2 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ทำเป็นขบวนการ เช่น การรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์ นำเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง หากปล่อยย่อไม่ไกลเกินเหตุ ที่จะล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ศาลรัฐธรรมนูญ อาศัยความในมาตรา 49 (1) สั่งให้ผู้ถูกร้องเลิกกระทำการดังกล่าว

          โดยให้ตอนท้ายอ่านคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ย้ำว่า การวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัย จะเข้าข่ายการละเมิดอำนาจศาลมีบทลงโทษตามมาตรา 39 ตั้งแต่ การตักเตือน ไปจนถึงการลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          สำหรับมติเอกฉันท์ คือ 9 ต่อ 0 

#ศาลรัฐธรรมนูญ 

#พรรคก้าวไกล