นายแกรี โอโดโนฮิว(Gary O'Donoghue)นักข่าวบีบีซีประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.สหรัฐฯวิเคราะห์แนวทางของสหรัฐฯในการตอบโต้อิหร่านว่าที่ผ่านมา สหรัฐฯสามารถจะจำกัดในเรื่องวิธีการตอบโต้กลุ่มติดอาวุธ ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่านในอิรักและซีเรียโจมตีค่ายทหารสหรัฐฯในตะวันออกกลางราว 150 ครั้งนับแต่เดือนต.ค.2566 เนื่องจากการโจมตีส่วนใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา มีทหารอเมริกันบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
หลังจากกลุ่มติดอาวุธของอิรัก ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน ส่งโดรนโจมตีค่ายทหารสหรัฐฯในจอร์แดนเมื่อวาน มีทหารอเมริกันเสียชีวิต 3 ราย หมายความว่า วิธีการตอบโต้ของสหรัฐฯในครั้งนี้ อาจจะแตกต่างและอาจจะเข้มข้นกว่าการตอบโต้ครั้งก่อนๆของสหรัฐฯ ด้วยเหตุผล 2 ข้อคือ ปีนี้ 2024 เป็นปีแห่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯและเพราะความเห็นของสาธารณชนส่วนใหญ่ต้องการให้สหรัฐฯตอบโต้อิหร่าน
แต่โดยทั่วไป ประธานาธิบดีสหรัฐฯอาจจะขอให้กองทัพสหรัฐฯนำเสนอแผนปฏิบัติการทางทหารในกรณีต่างๆเหล่านี้ ซึ่งอาจจะมีแนวทางการตอบโต้ เช่น การสั่งการให้กองทัพสหรัฐฯโจมตีกลุ่มติดอาวุธที่อยู่เบื้องหลังเหตุลอบโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ไปจนถึงวิธีการโจมตีค่ายทหารของอิหร่านโดยตรง ซึ่งวิธีการในข้อหลังนี้ มีสว.คนหนึ่งจากพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯเสนอให้รัฐบาลนายไบเดนใช้ตอบโต้อิหร่าน
แต่นายโอโดโนฮิว มองว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯจะต้องไตร่ตรองเรื่องนี้ อย่างรอบคอบ เช่น หาวิธีการการตอบโต้อย่างพอเหมาะพอดี ไม่ให้หนักจนเกินไป อีกทั้งเลี่ยงการถูกวิจารณ์จากสาธารณชนในสหรัฐฯที่ว่า นายไบเดนเป็นผู้นำที่อ่อนแอ ควบคู่กับการเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสขยายวงกว้างไปเป็นสงครามทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำได้ในสถานการณ์ที่เหตุการณ์หลายๆเรื่อง เช่น การสู้รบอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในเขตฉนวนกาซา และการที่กลุ่มฮูตีของเยเมนโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง กระทบความมั่นคงของตะวันออกกลางเรื่อยมานับแต่วันที่ 7 ต.ค.2566
#สื่อสหรัฐฯวิเคราะห์ไบเดน
#แนวทางตอบโต้อิหร่าน