บังกลาเทศจับกุม 3 สมาชิกติดอาวุธ ARSA จุดไฟเผาค่ายอพยพชาวโรฮิงญา

          เว็บไซต์สำนักข่าวอิรวดีนิวส์(Irrawaddy)ของเมียนมา รายงานอ้างพ.ท.เอ็สเอ็ม ซัซซาด โฮสเซน ผู้บัญชาการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว(RAB) ของกองทัพบังกลาเทศว่า ทหารหน่วย RAB ของบังกลาเทศได้จับกุม นายอุสมาน (ไม่มีรายละเอียดเรื่องนามสกุล)แกนนำกลุ่ม พร้อมพวก 2 คนคือ นายโมฮัมหมัด เนซาร์และอิหม่าม โฮซเซน ซึ่งเป็นสมาชิกในกองทัพปลดแอกชาวโรฮิงญาแห่งรัฐอาระกัน (ARSA) เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีฐานวางเพลิงเผาค่ายอพยพชาวมุสลิมโรฮิงญาใกล้อำเภอค็อกซ์ บาซาร์ (Cox’s Bazar) เมืองจิตตะกอง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ใกล้ชายแดนรัฐยะไข่ เมียนมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว พร้อมยึดของกลางคือ ปืนประดิษฐ์เอง 22 กระบอก กระสุนกว่า 100 ลูกและระเบิด 4 ลูก

         พ.ท.โฮสเซน กล่าวว่า นายอุสมาน เคยทำงานเป็นสายลับให้กับกองทัพเมียนมา และเข้าร่วมกับกลุ่ม ARSA ในปี 2560 ระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายอุสมานได้ย้ายมาอยู่ที่ค่ายบาลูไค (Balukhai camp) พร้อมครอบครัว หลังไฟไหม้ค่ายอพยพแห่งหนึ่งในย่านโคนาร์ปาระ(Konarpara)ใกล้ชายแดนเมียนมาในปี 2565 กระทบผู้อพยพชาวโรฮิงญากว่า 4,500 คน โดย  พ.ท.โฮสเซน ระบุว่าการจับกุมทั้ง 3 คนมีขึ้นหลังเกิดเหตุลอบวางเพลิงเผาค่ายอพยพในลักษณะเดียวกันมาหลายครั้งแล้ว

         นายซาน ไท ชิน นักวิจัยเกี่ยวกับชาวโรฮิงญา กล่าวว่า ไฟไหม้ค่ายอพยพส่วนใหญ่เป็นผลพวงจากปัญหาขัดแย้งภายในกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญา เช่น กลุ่ม ARSA กับ กลุ่ม RSO (องค์กรเพื่อความเอกภาพของชาวโรฮิงญา) พร้อมแนะนำให้ผู้อพยพชาวโรฮิงญาเฝ้าระวังเหตุลอบวางเพลิงเผาค่ายอพยพโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน เพิ่มเติมว่าที่ผ่านมา ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแม้แต่คนเดียว ที่ผ่านมา กลุ่ม ARSA และกลุ่ม RSO ต่อสู้กันเพื่อแย่งอำนาจควบคุมค่ายอพยพชาวโรฮิงญา

         ก่อนหน้านี้ เกิดเหตุวางเพลิงเผาค่ายอพยพแห่งหนึ่งในอำเภอค็อกซ์บาซาร์เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2566 กระทบผู้อพยพราว 16,000 คนจาก 3,011 ครัวเรือนและกระทบชาวบ้าน 5,000 คนในชุมชนใกล้ค่ายอพยพ

#บังกลาเทศ

#จับคนร้ายเผาค่ายอพยพ