ประธานาธิบดีรัสเซีย พร้อมเปิดหลักฐานยืนยันยูเครนยิงเครื่องบินตกเหนือเบลโกรอด

          รัสเซียและยูเครนต่างตำหนิอีกฝ่ายในเหตุการณ์เครื่องบินอิลยูชิน อิล-76 ของรัสเซียถูกยิงตกเหนือภูมิภาคเบลโกรอด ซึ่งอยู่ในรัศมี 30 กิโลเมตรของเขตสงคราม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 74 คนรวมถึงเชลยศึกชาวยูเครน 65 คน

          ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวว่าการป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนยิงเครื่องบินทหารรัสเซียตก ใกล้ชายแดนยูเครนเมื่อวันพุธ (24 ม.ค.67) ตามเวลาท้องถิ่น และรัสเซียพร้อมที่จะเปิดเผยผลการสอบสวนภายใน 2 ถึง 3 วัน แต่ผลเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่าขีปนาวุธที่โจมตีเครื่องบินนั้นเป็นของอเมริกาหรือฝรั่งเศส ซึ่งในการแสดงความเห็นครั้งแรกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวด้วยว่า ยูเครนรู้ว่าผู้โดยสารในเครื่องบินลำนี้คือเชลยศึกชาวยูเครน แต่เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเจตนาหรือผิดพลาด แต่มีหลักฐานชัดเจนว่ายูเครนเป็นฝ่ายที่ยิงเครื่องบิน และเป็นการกระทำที่มีความผิดทางอาญา นอกจากนี้ ประธานาธิบดี ปูติน ยังย้ำว่า เป็นไปไม่ได้ที่รัสเซียจะยิงเครื่องบินของฝ่ายเดียวกัน เนื่องจากระบบป้องกันภัยทางอากาศรัสเซีย จะมีระบบที่เรียกว่า 'มิตรหรือศัตรู'

          กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานเพิ่มเติมว่า ในเครื่องบินยังมีลูกเรือรัสเซีย 6 คน และทหารรัสเซีย 3 นาย เพื่อดำเนินการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งล่าสุดกับยูเครน โดยมีการแจ้งให้ฝ่ายยูเครนทราบล่วงหน้าแล้ว แต่ฝ่ายยูเครนโต้แย้งว่า พวกเขาไม่ทราบว่าผู้โดยสารในเครื่องบินคือใคร

          เมื่อวันพฤหัสบดี (25 ม.ค.) ยูเครนเรียกร้องให้นานาชาติสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนาย ดิมีโตร ลูบิเนตส์ กรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชน รัฐสภายูเครน เปิดเผยว่า จะส่งจดหมายถึงสหประชาชาติและกาชาด เพื่อร่วมกันตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

          ส่วนในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันศุกร์ (26 ม.ค.) ซึ่งนาง โรสแมรี ดิคาร์โล รองเลขาธิการสหประชาชาติ ยอมรับในช่วงเริ่มต้นการประชุมว่า สหประชาชาติไม่อยู่ในฐานะที่จะพิสูจน์ทราบสถานการณ์ของเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ได้ ส่วนนักการทูตของทั้ง 2 ฝ่ายต่างโยนความผิดให้กับอีกฝ่าย

          นายดมิทรี โปเลียนสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า ฝ่ายยูเครนทราบว่าผู้ที่อยู่ในเครื่องบินคือเชลยศึก ตามที่มีการตกลงเรื่องเส้นทางและกำหนดเวลาต่างๆ จนถึงสถานที่ที่จะมีการแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้า ซึ่งเขากล่าวหาว่ายูเครนสละกำลังพลของตนเองเพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของชาติตะวันตก

          แต่ นางสาวคริสตินา ฮาโยวีชิน รองเอกอัครราชทูตยูเครน ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่ายูเครนไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับวิธีการขนส่งเชลย จึงถือได้ว่ารัสเซียมีเจตนาสร้างอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของเชลย ยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเครื่องบินตกในดินแดนรัสเซีย พร้อมยืนกรานเรียกร้องให้นานาชาติเข้าสอบสวน

..

#รัสเซีย #ยูเครน #แลกเปลี่ยนเชลย