ศาลสหรัฐฯ รับฟังคำร้องคดีแพ่งกล่าวหา ‘ไบเดน’ สมรู้ร่วมคิดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา

          ศาลรัฐบาลกลางในแคลิฟอร์เนีย พิจารณาคำร้องคดีแพ่ง ตามที่ศูนย์สิทธิตามรัฐธรรมนูญ (The Center for Constitutional Rights : CCR) ซึ่งเป็นกลุ่มเสรีภาพพลเมืองของสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นฟ้องในนามขององค์กรสิทธิมนุษยชนปกป้องเด็กชาวปาเลสไตน์ (Defense for Children – Palestine; Al-Haq) ที่ตั้งอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ เรียกร้องให้สหรัฐฯ ใช้อิทธิพลของตนกดดันให้อิสราเอลยุติสงครามในฉนวนกาซา โดยกล่าวหาว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสคนอื่นๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์

          โดยในการพิจารณา ทนายความที่เป็นตัวแทนของประธานาธิบดีไบเดน, นาย แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีการต่างประเทศ และ นาย ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการพิจารณาคดี พร้อมกับฝ่ายโจทก์ที่กล่าวหาพวกเขาว่าล้มเหลวในการป้องกัน และสมรู้ร่วมคิดกับรัฐบาลอิสราเอลในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ นอกจากนี้ศาลได้รับฟังคำบรรยายจากทนายความ กลุ่มสิทธิมนุษยชน รวมถึงแพทย์ในฉนวนกาซา เกี่ยวกับสถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญมาเกือบสี่เดือน นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม (2566) ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปมากกว่า 26,000 คน ภายหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,100 คน

          ทั้งนี้ ศูนย์สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ยื่นฟ้องครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน (2566) กล่าวว่าประธานาธิบดีไบเดน, นายบลิงเกน และนายออสติน ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการปฏิบัติตามพันธกรณีเรื่องการป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ยังให้การสนับสนุนทางการทหารและการทูตอย่างไม่มีเงื่อนไขต่ออิสราเอล จึงขอให้ศาลประกาศว่าทั้ง 3 คนละเมิดหน้าที่ของตนภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายทั่วไปของรัฐบาลกลาง ในการใช้มาตรการทั้งหมดที่อยู่ในอำนาจของตนเพื่อไม่ให้อิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ ใช้อิทธิพลของตนกดดันให้อิสราเอลยุติความเป็นศัตรูกับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา

          อย่างไรก็ตาม ทนายความฝ่ายจำเลยโต้แย้งว่า ศาลไม่มีอำนาจตัดสินเรื่องนี้ เพราะการดำเนินนโยบายการต่างประเทศ การทหาร และความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตร อยู่ในขอบเขตอำนาจของฝ่ายบริหาร ซึ่งได้แก่ประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรี

          ก่อนหน้านี้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) มีคำสั่งให้อิสราเอลใช้มาตรการทั้งหมดที่เป็นไปได้เพื่อป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา และให้ดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือพลเรือน โดยต้องส่งแผนการทำงานทั้งหมดต่อศาลภายในเวลา 1 เดือน พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตัวประกันในฉนวนกาซา จึงเรียกร้องให้การปล่อยตัวทันทีโดยปราศจากเงื่อนไข แม้ว่าในถ้อยแถลงของศาลจะไม่มีคำว่าหยุดยิง แต่นางนาเลดี พันดอร์ รัฐมนตรีการต่างประเทศแอฟริกาใต้ กล่าวว่า คำพิพากษานี้เทียบเท่ากับการหยุดยิงแล้ว เพราะการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ก็ต่อเมื่อมีการหยุดยิงเกิดขึ้น

..

#ศาลสหรัฐฯ #โจไบเดน #อิสราเอล