การเดินทางเยือนประเทศไทยของ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการพบหารือกับนายหวัง อี้ สมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านการต่างประเทศพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนระหว่างวันที่ 26-27 มกราคม ซึ่งเป็นการประชุมครั้งนี้จะต่อยอดความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายจากการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีไบเดน และประธานาธิบดีสี ณ เมืองวูดไซด์ ในเดือนพฤศจิกายน 2566 เพื่อรักษาช่องทางการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์และจัดการความสัมพันธ์อย่างมีความรับผิดชอบ
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์จส.100 ว่า นับเป็นโอกาสดีในการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีน ที่จะพูดคุยกันระดับทวิภาคี โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐได้กดดันให้จีน ส่งสัญญาณไปยังอิหร่านเพื่อให้กลุ่มฮูตียุติการโจมตีในทะเลแดงที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก จนทำให้ค่าขนส่งทั่วประเทศขึ้นมาถึงร้อยละ300 อีกด้านคือ ท่าทีของจีน ต่อการสนับสนุนกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมา ต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่า ไม่นับรวมการสู้รบรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังบานปลาย ในช่วงที่ปลายปีนี้ สหรัฐจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีก
สำหรับประเทศไทยได้ใช้จังหวะนี้ เพื่อนำเสนอดึงดูดนักลงทุนจากทั้ง 2 ประเทศ เข้ามาลงทุน ในโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งทั้งสหรัฐและจีนก็อาจจะได้เส้นทางสินค้าสายไหม แต่ทั้ง 2 ประเทศคงไม่อยากให้ใครควบคุมใคร
โดยสิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยต้องระวัง ในฐานะที่เป็นประเทศที่รอบคอบและระมัดระวัง ในเวทีระหว่างประเทศไม่ค่อยเอาเปรียบประเทศอื่น หากไทยเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประเทศมหาอำนาจ เป็นเรื่องที่ไทยต้องระวังมากๆ ต้องไม่ทำอะไรสุ่มเสี่ยงเลือกข้างใดข้างหนึ่ง ที่จะทำให้ไทยจะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง มองว่าการเจรจาในไทยครั้งนี้ เราคงเป็นได้ผู้ประสานงานให้ 2 ฝ่ายมากกว่า ซึ่งรศ.ดร.ปณิธานเตือนว่า การจะเดินหน้าอะไรต้องชั่งน้ำหนักให้ดี
#สหรัฐหารือจีนในไทย
#ปณิธานวัฒนายากร
ผบ.กองเรือยุทธการ เตรียมความขั้นสูงสุด รับมือภัยคุกคาม
สธ.เร่งฟื้นฟูรพ.น่าน หลังระดับน้ำเริ่มลดแล้ว 4 จังหวัดภาคเหนือได้รับผลกระทบ
ไทยย้ำ กัมพูชา โจมตี ตลอดทั้งวัน ไม่เข้าเงื่อนไขหยุดยิง
ข่าวทั้งหมด
