*รมว.กห. ย้ำ ไทยแก้ไขปัญหาผู้อพยพตามหลักกฎหมาย*

จากกรณีที่เกิดเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่ของจังหวัดยะลาเมื่อสัปดาห์ก่อน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี  ขณะที่ทางพล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ก็กำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย โดยเฉพาะในพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้

ส่วนการหามาตรการเพื่อดำเนินแก้ไขปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญา พล.อ.ประวิตร  ระบุว่า ที่ผ่านมาไทยได้ให้การดูแล และให้ความข่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยธรรม แต่จะไม่มีการตั้งศูนย์พักพิง ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานกับประเทศต้นทาง และปลายทาง เพื่อหาวิธีการดำเนินการตามที่ผู้อพยพต้องการขอให้ช่วยเหลือ ส่วนการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ที่เมียนมาร์ อาจจะไม่เข้าร่วมการประชุมนั้น เห็นว่า เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องชี้แจง ทั้งนี้ หากไทยสามารถแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ได้สำเร็จ จะทำให้สหรัฐอเมริกาปรับระดับความพยายามตอบสนองต่อการค้ามนุษย์จากกลุ่มที่ 3 หรือเทียร์ 3 ที่เป็นระดับต่ำสุด ขึ้นมาอยู่ลงไปอยู่เทียร์ 2 หรือไม่นั้น พลเอกประวิตรกล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน

โดยในวันนี้ พล.อ.ประวิตร รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง  เดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยพล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ,พล.ต.อ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ,นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.เพื่อที่ติดตามการแก้ปัญหาชาวโรฮิงญา

ส่วนการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี  หรือ ครม.และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในวันพรุ่งนี้ จะมีวาระเกี่ยวกับการพิจารณาว่าจะจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าควรทำประชามติ ก็จะส่งเรื่องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.เป็นผู้ที่ไปพิจารณาแก้ไขกฎหมาย จากนั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้พิจารณาว่าควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

 

..ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด