การติดตามคดีนายซันดาราเวล อายุ 23 ปี นายหน้าชาวอินเดีย ฆ่าหั่นศพชายชาวเมียนมา ซ่อนในตู้แช่เย็น ภายในอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ซอยสะแกงาม 35/3 เขตบางขุนเทียน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ใกล้ได้ตัวผู้ต้องหาแล้ว แต่มูลเหตุจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ ต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานให้มีความชัดเจนก่อน ขณะนี้ ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง กรณีที่มีการปล่อยปละละเลยให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปนั้น จะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงถึงการปฏิหน้าที่ของตำรวจว่ามีความบกพร่องอย่างไรบ้าง
หลังจากรัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวบางประเทศ พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวอินเดียเดินทางเข้ามามากเป็นอันดับ 1 จึงมอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ FBI เข้มงวดการตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่พัทยา เพื่อเฝ้าระวังกลุ่มชาวต่างชาติที่อาจเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรืออาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ฟอกเงิน และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ตำรวจสืบหาหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว เรียกแรงงานชาวเมียนมา 4 คน มาสอบปากคำ เนื่องจาก พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับที่พบศพ โดยมีล่ามภาษาแปลคำให้การว่า กลุ่มแรงงานต่างชาติมีทั้งชาวอินเดียและชาวเมียนมา รวม 6 คน ทั้งหมดเดินทางมาจากเมียนมา เข้าไทยผ่านนายหน้าชาวอินเดีย จ่ายคนละ 7,000 บาท ซึ่งเดินทางจากเมียนมา ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.67 และมาถึงชายแดนไทย วันที่ 12 ม.ค.67 จากนั้นเดินทางต่อมาถึงย่านสีลม กรุงเทพฯ วันที่ 13 ม.ค.67 ก่อนจะถูกขังรวมกันในห้องครัวชั้นล่างที่บ้านเกิดเหตุ ไม่ให้ออกไปข้างนอก และวันที่ 19 ม.ค.67 นายหน้ามีการพูดคุยสอบถามว่า ใน 6 คนนี้ ใครอายุมากที่สุด ซึ่งผู้ตายมีอายุมากที่สุด จึงให้แยกออกไปชั้น 3 โดยผู้เสียชีวิตเดินตามขึ้นไปเพียงลำพัง นานกว่า 30 นาที ก่อนเดินลงมาเพียงคนเดียวในสภาพเหงื่อเต็มตัว แล้วมีสีหน้าท่าทางไม่พอใจ
ต่อมา นายหน้าบอกกับทุกคนว่าไม่พอใจผู้เสียชีวิต และขู่ว่ารู้จักตำรวจ ตม.หลายคน หากใครไม่ยอมทำตามคำสั่ง หรือทำให้ไม่พอใจ จะแจ้งตำรวจ พูดจบก็ให้กลุ่มแรงงาน 5 คนที่เหลือ นั่งรถแท็กซี่ไปหางานในย่านสีลม หลังจากทุกคนหางานทำ พอย้อนกลับมาที่พัก เมื่อวันที่ 21 ม.ค.67 พบว่าประตูล็อก จึงงัดกุญแจเข้าไป และพบร่างของผู้ตายในตู้แช่เย็น
ทางการไทย ประสานผ่านเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยให้ช่วยติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีออกไปตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.67 เพราะไทยมีความร่วมมืออันดีผ่านทางสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับอินเดีย ส่วนสาเหตุยังไม่แน่ชัดว่าเป็นประเด็นทะเลาะวิวาท หรือชู้สาว และแม้แต่การค้ามนุษย์
จากการสืบค้นข้อมูล เบื้องต้นทราบว่า นายซันดาราเวล เดินทางเข้ามาในไทยถูกต้องและอาศัยอยู่หลายปีแล้ว ทั้งยังจดทะเบียนบริษัทกับกรมธุรกิจการค้า เรื่องของการค้า แต่ประเด็นอื่นต้องรอสืบสวนว่าทำธุรกิจอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ แต่ส่วนของแรงงาน 6 คน คาดว่าเข้ามาแบบผิดกฎหมาย
#ฆ่าหั่นศพ
แฟ้มภาพ ฝ่ายสืบสวน,ดาวแปดแฉก