เปิดโครงการ 'ครูแคร์ใจ'ช่วยดูแลสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น พบข้อมูล วัยรุ่น17.6%เครียด-คิดทำร้ายตัวเอง

19 มกราคม 2567, 15:17น.


          เด็กและวัยรุ่นไทยเสี่ยงมีปัญหาทางจิตเพิ่มขึ้น สธ- กรมสุขภาพจิต - สสส. - ศธ. ปั้นโครงการ'ครูแคร์ใจ' ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น



          สถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตในเด็กและวัยรุ่นไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น วัยรุ่นอายุ 13-17 ปี กว่าร้อยละ 17 เคยมีความคิดทำร้ายตนเอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หนุนสร้าง เครือข่าย “ครูแคร์ใจ” โดยกรมสุขภาพจิต ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และกระทรวงศึกษาธิการ ช่วยพัฒนาศักยภาพครูในการส่งเสริมสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นในสถานศึกษา นำร่องรุ่นที่ 1 ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ก่อนขยายผลทั่วประเทศต่อไป



          นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการอบรมพัฒนายกระดับศักยภาพครูเพื่อการส่งเสริมสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตในเด็กและวัยรุ่นไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์ และสังคม ที่นำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพจิตและจิตเวชในระยะยาว ข้อมูลกรมสุขภาพจิตปี 2565 พบว่า วัยรุ่นอายุ 10-19 ปี  ประมาณ 1 ใน 7 คน และเด็กอายุ 5-9 ปี ประมาณ 1 ใน 14 คน มีความผิดปกติทางจิตประสาทและอารมณ์ โดยวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี ร้อยละ 17.6 เคยมีความคิดทำร้ายตนเองซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของวัยรุ่น นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการกลั่นแกล้งรังแกกัน ปัญหาความรุนแรง การถูกทอดทิ้ง หรือการถูก ทารุณกรรม ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตมากขึ้น



          แผนยุทธศาสตร์ชาติ ปี 2561-2580 ว่าด้วยการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนในทุกมิติและทุกช่วงวัย ให้เป็นคนดี เก่ง มีคุณภาพพร้อมทั้งกาย ใจ และสติปัญญา ซึ่งในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นเป็นวัยกำลังศึกษาเล่าเรียน เวลาส่วนใหญ่ของวัยนี้จะอยู่ในสถานศึกษา ครูจึงเป็นผู้ที่บทบาทอย่างมากในการชี้นำ ให้คำปรึกษา แนะแนวทางต่างๆ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสุขภาพจิต จึงร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และกระทรวงศึกษาธิการ จัดโครงการ 'อบรมพัฒนาและยกระดับศักยภาพครู' หรือ  'ครูแคร์ใจ' เพื่อให้ครูมีความรู้และทักษะสำคัญในการส่งเสริม ป้องกันปัญหาด้านสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นในสถานศึกษาได้



          ทางด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เด็กในปัจจุบันมีความฉลาดและเท่าทันกับยุคสมัย การให้ความรู้ด้วยการสอนเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ หากมีกระบวนการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนด้วยการรับฟังอย่างเข้าใจ จะเป็นโอกาสในการลดปัญหาสุขภาพจิตในเด็กและเยาวชนได้ การจัดอบรม “ครูแคร์ใจ” ครั้งนี้ จึงเน้นความรู้และทักษะที่จำเป็น อาทิ ทักษะการฟัง Deep Listening การป้องกันความรุนแรงและการกลั่นแกล้งรังแกกันในโรงเรียน คัดกรองความเสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต เป็นต้น โดยนำร่องรุ่นที่ 1 ในสถานศึกษาในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จากนั้นจะขยายผลทั่วประเทศต่อไป



          ส่วน นพ. จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข  โดยกรมสุขภาพจิต ได้มีการดำเนินงานร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ ในการพัฒนาระบบดูแลสุขภาพจิตนักเรียน ผ่านแอปพลิเคชัน School Health Hero ซึ่งมีการเฝ้าระวังปัญหาทางด้านสุขภาพจิตนักเรียน หากพบความเสี่ยง คุณครูสามารถปรึกษาบุคลากรทางแอปพลิเคชันได้ทันที โดยในปีการศึกษา 2565 มีนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้รับการช่วยเหลือจนดีขึ้น ถึงร้อยละ 73 นอกจากการพัฒนาระบบเฝ้าระวังแล้ว ยังมีการอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการศึกษาไปแล้วกว่า 6,900 คน ประกอบไปด้วยบุคลากรจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร โดยกรมสุขภาพจิต จะมีการดำเนินการพัฒนาแอปพลิเคชัน School Health Hero ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกมากขึ้น พัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงขยายพื้นที่ในการเฝ้าระวังสุขภาพจิตนักเรียนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ    ต่อไป



ที่มา :https://www.facebook.com/THAIDMH?locale=th_TH



Cr: กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณะสุข 



 



 



#ครูแคร์ใจ



#กรมสุขภาพจิต

ข่าวทั้งหมด

X