สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (17 ม.ค.67) ว่า GDP ในไตรมาส 4/2566 ขยายตัวร้อยละ5.2 ซึ่งดีกว่าในไตรมาส 3 ที่มีการขยายตัว ร้อยละ 4.9 โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลจีนเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2566 อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจจะขยายตัวร้อยละ 5.3
ส่วน GDP ทั้งปี 2566 ของจีน ขยายตัวร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ราวร้อยละ 5 หลังจากจีนยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นมาตรการที่ส่งผลให้เศรษฐกิจจีน ชะลอตัวลงสู่ระดับร้อยละ 3 ในปี 2565
ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดภาคเช้าปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (17 ม.ค.67) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4/2566 ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดภาคเช้าที่ระดับ 15,419.68 จุด ลดลง 446.24 จุด ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดภาคเช้าที่ระดับ 35,810.35 จุด เพิ่มขึ้น 191.17 จุด
หุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้า หลุดระดับ 1,400 จุด มาอยู่ที่ 1,389.46 จุด ลดลง 12.26 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 30,768.91 ล้านบาท
#เศรษฐกิจจีน