ฝ่ายบริหารสหรัฐฯ กังวลความขัดแย้งรุนแรงขึ้น ไต้หวัน-จีน หลัง'ไล่ ชิง เต๋อ'ชนะเลือกตั้ง

15 มกราคม 2567, 10:24น.


             หลังจากที่ นาย ไล่ ชิงเต๋อ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) พรรครัฐบาลและรองประธานาธิบดี ชนะการเลือกตั้งไต้หวัน ดำรงตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน


            ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันเสาร์ (13 ม.ค.67) ว่าสหรัฐฯ ไม่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน หลังจากที่พรรครัฐบาลชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 3 รายงานระบุว่า ความเห็นดังกล่าวเป็นการให้ความมั่นใจกับจีน 


            ย้อนไปเมื่อเดือนพ.ย.66 ประธานาธิบดีไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พบกันครั้งประวัติศาสตร์ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย นอกรอบการประชุมเอเปค นายไบเดน ได้กระชับความสัมพันธ์กับจีน รวมถึงตกลงที่จะหารือเกี่ยวกับความแตกต่างในเรื่องความมั่นคงในการพบกันครั้งนั้น 


            รายงานระบุว่า ฝ่ายบริหารของนายไบเดน เกรงว่าการเลือกตั้งและการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลชุดใหม่ของไต้หวันจะทำให้ความขัดแย้งกับจีนรุนแรงมากขึ้น


            ก่อนหน้านี้ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความยินดีกับนายไล่ และกล่าวว่าสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะรักษาสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบ และการแก้ไขความแตกต่างอย่างสันติ ไม่มีการบังคับและความกดดัน สหรัฐฯ รอที่จะทำงานร่วมกับนายไล่ และผู้นำทุกฝ่ายในไต้หวันเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการที่ยาวนาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายจีนเดียวของสหรัฐฯ


           สถาบันอเมริกันในไต้หวัน ระบุในแถลงการณ์ว่า คณะผู้แทนที่ฝ่ายบริหารของนายไบเดนส่งมาจะมีการเจรจากับบุคคลสำคัญทางการเมืองชั้นนำในวันนี้(15 ม.ค.67)  นายสตีเฟน แฮดลีย์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และนายเจมส์ สไตน์เบิร์ก อดีตรองรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงไทเป เมื่อวันอาทิตย์(14 ม.ค.67) หลังการเลือกตั้ง


           นายไล่ ชิงเต๋อ หรือ วิลเลียม ไล อายุ 64 ปี จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) เคยเป็นรองประธานาธิบดี ของประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง มีนโยบายสำคัญคือการปกป้องสถานะปกครองตนเองของไต้หวัน เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันในสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู หลังจากนั้นก็ได้ศึกษาต่อมหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกงในสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สาขาสาธารณสุขศาสตร์ เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ตั้งแต่ปี 2542 ถึง 2553 เป็นนายกเทศมนตรีไถหนาน ตั้งแต่ปี 2553 ถึง 2560 และนายกรัฐมนตรีไต้หวัน ตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2563


 


#ไล่ชิงเต๋อ


#ไต้หวัน


#จีน


#สหรัฐฯ


แฟ้มภาพ 


 
ข่าวทั้งหมด

X