ทรัมป์วิจารณ์ผู้พิพากษาและอัยการสูงสุด ในคดีฉ้อโกงมูลค่าทรัพย์สิน

          นาย โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางมาที่ศาลฎีกาในเมืองแมนฮัตตันอีกครั้ง ในวันสุดท้ายของการพิจารณาคดีฉ้อโกงมูลค่าทรัพย์สินของเขาให้สูงเกินจริงเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการจัดหาเงินกู้ ซึ่งผู้พิพากษา อาร์เธอร์ เอนโกรอน ประกาศว่านายทรัมป์ กระทำความผิดจริงและจะออกคำตัดสินเป็นลายลักษณ์อักษรภายในสิ้นเดือนนี้

          ในระหว่างการพิจารณาคดีเป็นเวลา 10 สัปดาห์ นายแอนดรูว์ อาเมอร์ อัยการรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า นายทรัมป์สั่งการให้พนักงานและนักบัญชีเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พร้อมแสดงหลักฐานเป็นอีเมลหลายฉบับต่อศาล และนาง เลติเทีย เจมส์ อัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์ก ขอให้ผู้พิพากษาสั่งปรับนายทรัมป์เป็นเงิน 370 ล้านดอลลาร์ และขอให้มีคำสั่งห้ามทำธุรกิจในนิวยอร์กอีกครั้ง รวมถึงสั่งห้ามบุตรชาย 2 คนของเขาคือ นายเอริค ทรัมป์ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ทำธุรกิจในนิวยอร์กเป็นเวลา 5 ปี และห้ามผู้ตรวจสอบอิสระดูแลบริษัทของพวกเขาอีก 5 ปีข้างหน้า

          อย่างไรก็ตาม ระหว่างการพิจารณาคดีนัดสุดท้าย ทนายความของนายทรัมป์ใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงในการโต้แย้งว่าครอบครัวทรัมป์ไม่ได้ฉ้อโกง ส่วนนายทรัมป์บอกกับผู้พิพากษาว่าการพิจารณาคดีนี้ คือการฉ้อโกงเขา ทั้งกล่าวดูหมิ่นผู้พิพากษาและอัยการ จนทำให้ผู้พิพากษาต้องบอกให้ทนายความควบคุมลูกความ

          นับตั้งแต่อัยการยื่นฟ้องคดีฉ้อโกง นายทรัมป์กล่าวโต้แย้งหลายครั้งทั้งต่อหน้าศาลและต่อสาธารณะในถ้อยคำที่คล้ายกันว่าเป็นการฟ้องร้องที่มีเป้าหมายทางการเมืองเพื่อต้องการขัดขวางเขาลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกครั้ง ขณะที่ทนายความระบุว่า การประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ของนายทรัมป์ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อธนาคารหรือบุคคลอื่น แต่คำตัดสินของผู้พิพากษาจะสร้างผลกระทบต่อบริษัททุกแห่งในนิวยอร์ก ทั้งเห็นว่า ผู้พิพากษา พนักงานศาลจนถึงอัยการมีอคติต่อนายทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้นายทรัมป์ยังดูหมิ่นเสมียนของผู้พิพากษาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จนทำให้เขาต้องเสียค่าปรับ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ

...

#ศาลฎีกาแมนฮัตตัน

#คดีฉ้อโกงมูลค่าทรัพย์สิน

#ทรัมป์