บีบีซีและไฟแนนเชียลไทม์รายงานอ้างแถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมจีนและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯว่า นายไมเคิล เชส (Michael Chase)รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯที่รับผิดชอบเรื่องนโยบายจีน และพ.อ.ซง หยานจ้าว (Song Yanchao)รองผู้อำนวยการสำนักคณะกรรมาธิการกลางของกองทัพจีนที่รับผิดชอบเรื่องความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศของจีน ได้ประชุมกันที่กระทรวงกลาโหมในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เมื่อวันอังคาร สอดคล้องกับนโยบายสัมพันธ์กองทัพจีน-สหรัฐฯตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ตกลงไว้ระหว่างการประชุมกันในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน
แถลงการณ์ระบุว่า จีนอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ในระดับกองทัพจีนกับกองทัพสหรัฐฯดำเนินไปอย่างแน่นแฟ้นและมั่นคง บนพื้นฐานของความเสมอภาคและให้เกียรติกัน ขอให้สหรัฐฯพิจารณาข้อห่วงใยต่างๆจากจีนอย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน ประเทศจีนย้ำว่าจีนจะไม่ยอมผ่อนผันในประเด็นเรื่องไต้หวัน ขอให้สหรัฐฯทำตามหลักการเรื่องจีนเดียว (one-China principle) ทำตามคำมั่นต่างๆที่เคยให้กับประเทศจีน ขอให้สหรัฐฯหยุดขายอาวุธให้กับไต้หวันและไม่สนับสนุนการประกาศเอกราชของไต้หวัน พร้อมย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องจัดประชุมระดับผู้นำกองทัพของประเทศทั้งสองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้การแข่งขันในด้านต่างๆของประเทศทั้งสองย่ำแย่ถึงขั้นใช้กำลังทหารสู้รบกัน นับเป็นการประชุมครั้งแรกนับแต่ปี 2564
การประชุมครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในไต้หวันในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ซึ่งจะมีผลต่อการฟื้นฟูสัมพันธ์กับจีน ดั่งนโยบายของพรรคก๊กมินตั๋ง พรรคฝ่ายค้านของไต้หวัน หรือการเหินห่างจีนและใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ดั่งนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ภายใต้การนำของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ที่ผ่านมา จีนอ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน แต่ไต้หวันมองตนเองว่าแยกตัวเป็นอิสระจากการปกครองของจีน มีอำนาจอธิปไตย รัฐธรรมนูญและพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งก้าวเข้ามาบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตย
#กองทัพจีนและสหรัฐ
#การเลือกตั้งไต้หวัน