นายกฯ กาตาร์ ยอมรับ การเสียชีวิตของแกนนำกลุ่มฮามาส กระทบการเจรจา-ช่วยตัวประกัน

          ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล ทานี และรัฐมนตรีต่างประเทศของกาตาร์ เปิดเผยว่า การที่อิสราเอลสังหารนายซาเลห์ อัล-อารูรี ผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในกรุงเบรุต เลบานอน เมื่อวันอังคารที่แล้ว(2 ม.ค.67) อาจจะกระทบต่อการเจรจาให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน ซึ่งถูกควบคุมตัวในเขตฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 ยอมรับว่า การเสียชีวิตของหนึ่งในแกนนำระดับสูงของกลุ่มฮามาส อาจจะส่งผลให้การเจรจากับคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายมีปัญหายุ่งยากกว่าเดิม

          นายอัล ทานี พูดเรื่องนี้ในกรุงโดฮา ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและในช่วงท้ายการแถลง นักข่าวได้ถามว่าการเสียชีวิตของนายอารูรีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะกระทบการเจรจาให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันอีกกว่า 100 คนหรือไม่

          นายอัล ทานี กล่าวว่า ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาที่ยุ่งยากเพียงใด ขณะนี้การเจรจายังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง ระบุว่ากาตาร์ในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยไม่ได้ล้มเลิกการทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ย อีกทั้งยังคงเดินหน้าเจรจาเรื่องตัวประกันกับทั้งสองฝ่าย เขาเพิ่มเติมว่า กาตาร์พยายามจะผลักดันให้การเจรจาประสบความสำเร็จโดยเร็วเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทำข้อตกลงพักรบ ให้องค์กรการกุศลระหว่างประเทศขนสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปยังเขตฉนวนกาซาและให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน

          สำหรับนายบลิงเกน เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนล่าสุด ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ส่งมาเยือนตะวันออกกลางเมื่อวันที่ 4 ม.ค.67 รวมทั้งเยือนอิสราเอล เป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสและอิสราเอลสู้รบกันเมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 พร้อมทั้งพบกับพันธมิตรในสหรัฐฯในตะวันออกกลาง เพื่อย้ำจุดยืนสหรัฐฯไม่ต้องการให้สงครามในเขตฉนวนกาซา บานปลายมากกว่านี้

#กาตาร์

#เจรจาตัวประกัน