คณะลูกขุนสหรัฐฯ ตัดสินโทษประหารชีวิตนายโซคาร์ ซาร์นาเอฟ ชาวเชเชน วัย 21 ปี ซึ่งเป็นมือระเบิดในการแข่งขันวิ่งมาราธอนในรายการ "บอสตัน มาราธอน" รัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่อปี 2556 ใน 6 ข้อหา จากข้อหาร้ายแรงทั้งหมด 17 ข้อหา หลังคณะลูกขุนใช้เวลาพิจารณาพยานหลักฐานนาน 15 ชั่วโมง และเห็นว่า นายซาร์นาเอฟมีความผิดจริง ทั้งการสังหารเจ้าหน้าที่ การจี้ชิงรถ และการใช้อาวุธขณะหลบหนี การระเบิด 2 ครั้งซ้อนที่เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เส้นชัย ยังทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บ 264 คน ในจำนวนนี้สูญเสียแขนขา 17 คน นับเป็นเหตุวินาศกรรมครั้งรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11 ทั้งนี้ ในระหว่างการพิจารณาคดี นายจูดี้ คลาร์ก ทนายจำเลย ยอมรับว่า นายซาร์นาเอฟ ซึ่งอพยพมาอยู่สหรัฐฯ ตั้งแต่เด็ก เป็นผู้ลงมือจริง แต่พยายามชี้ให้เห็นว่า เค้าถูกชี้นำโดยพี่ชายที่มีแนวคิดหัวรุนแรง โดยยังได้รับแรงกดดันจากหลายด้าน ทั้งวัยวุฒิ การถูกชี้นำ รวมถึงปัญหาครอบครัว ซึ่งได้ขอให้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน ขณะที่อัยการระบุว่า นายซาร์นาเอฟมีแนวคิดหัวรุนแรงอยู่แล้วตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย และยังไม่มีความสำนึกผิดเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่ทนายจำเลยจะอุทธรณ์คำตัดสิน ซึ่งคาดว่าจะยืดเยื้อเป็นเวลาหลายปี ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันไม่เห็นด้วยกับการตัดสินโทษประหารชีวิต โดยเห็นว่า นายซาร์นาเอฟน่าจะต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน เนื่องจากการตัดสินโทษประหารจะนำไปสู่การอุทธรณ์ซึ่งมีกระบวนการยืดเยื้อ
CR:CNN รอยเตอร์ เอพี