สธ.ห่วงไวรัสซิการะบาด มีผู้ติดเชื้อ 758 รายในปี 2566

05 มกราคม 2567, 17:39น.


          นพ.ธงชัย กีรติหัตยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นฤดูหนาวของประเทศไทย แต่พื้นที่ส่วนใหญ่อากาศไม่ค่อยเย็น ส่งผลให้ยุงลายที่เป็นพาหะนำ 3 โรค ยังสามารถขยายพันธุ์ได้ โดยในปี 2566 มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 153,734 ราย เสียชีวิต 181 ราย โรคปวดข้อยุงลาย พบผู้ป่วย 1,371 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา พบผู้ป่วย 758 ราย ในจำนวนนี้เป็นหญิงตั้งครรภ์ 33 ราย ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ป่วยที่กำลังตั้งครรภ์จะส่งผลให้ทารกที่คลอดออกมามีความผิดปกติศีรษะเล็ก หรือพิการแต่กำเนิด โรคนี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศแอฟริกา และเคยพบประปรายในประเทศไทยหลายปีก่อน แต่ในปีที่ผ่านมา มีรายงานพบทารกศีรษะเล็กยืนยันติดเชื้อไวรัสซิกา 13 ราย



          ในระยะ 4 สัปดาห์ล่าสุด พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกามากที่สุดในกรุงเทพมหานคร 40 ราย ตามด้วย จ.ประจวบคีรีขันธ์ 13 ราย อีกทั้งยังพบผู้ป่วยในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันและเนเธอร์แลนด์ที่กลับจากเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 3 ราย



          การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงลายกัด โดยการนอนในมุ้งหรือห้องที่ติดมุ้งลวด จุดยากันยุง หรือทาโลชั่นกันยุง และเก็บกวาดสถานที่ไม่ให้มีน้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ และเนื่องจากพบนักท่องเที่ยวป่วย จึงขอแนะนำผู้ประกอบการเจ้าของสถานที่พักแรมจัดการที่พัก และสิ่งแวดล้อมไม่ให้ยุงลายมีที่วางไข่ รวมทั้งแจกยาทากันยุง หรือสเปรย์พ่นยุงในห้องพักด้วย



          ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง บางราย มีอาการไข้ ร่วมกับผื่นแดงตามร่างกาย ตาแดง ปวดกล้ามเนื้อ และปวดข้อ หากสงสัยให้พบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ และหากพบว่า ตนเองป่วยเป็นโรคไวรัสซิกา ควรปฏิบัติตัวเพิ่ม 3 ประการ คือ ทายากันยุงวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน และงดเว้นการเดินทางออกนอกพื้นที่เป็นเวลา 14 วัน เพื่อไม่ให้ยุงกัดแล้วนำเชื้อไวรัสไปให้คนรอบตัว และเนื่องจากพบว่า เชื้อไวรัสนี้สามารถอยู่ในสารคัดหลั่งของผู้ชายได้ จึงควรใช้ถุงยางอนามัยเป็นเวลา 3 เดือน



          ย้ำว่าโรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยมาตรการเดียวกันกับโรคไข้เลือดออก และกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญ คือ หญิงตั้งครรภ์ และคู่สมรสที่วางแผนจะมีบุตร ต้องป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422



...



#ไวรัสซิก้า



#กระทรวงสาธารณสุข

ข่าวทั้งหมด

X