บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ได้ไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งในกรุงมอสโกเมื่อวานนี้ พร้อมทั้งปราศรัยกับกำลังพลในกองทัพรัสเซีย ให้คำมั่นจะโจมตีฐานทัพต่างๆในยูเครนหนักยิ่งขึ้น หลังจากทั้งสองฝ่ายระดมโจมตีทางอากาศอย่างหนักตลอด 2-3 วันที่แล้ว พร้อมประเมินสถานการณ์สงครามในยูเครนในขณะนี้ว่า เริ่มเอื้ออำนวยกับรัสเซียมากขึ้น
นายปูติน กล่าวว่า เขาอยากให้สงครามกับยูเครนสิ้นสุดโดยเร็ว และสิ้นสุดลงภายใต้เงื่อนไขต่างๆตามที่รัสเซียต้องการ แต่เขายอมรับว่า ชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของยูเครน คือ อุปสรรคใหญ่ที่สุดในการยุติการสงครามยูเครน แต่วาทกรรมเรื่องสงครามของยูเครนและชาติตะวันตกเริ่มเปลี่ยนแปลง หลังพวกเขาเริ่มตระหนักว่า พวกเขาไม่อาจจะทำลายรัสเซียอย่างแน่นอน พร้อมทั้งพูดถึงเหตุการณ์ที่ยูเครนโจมตีเมืองเบลโกรอด ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย ใกล้ชายแดนยูเครนเมื่อวันเสาร์ มีคนเสียชีวิต 25 รายว่า ยูเครนมุ่งโจมตีพลเรือนชาวรัสเซียอย่างชัดเจน
ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ ของอังกฤษ เมื่อวานนี้ โต้แย้งคำอ้างของผู้นำรัสเซีย ระบุว่า คำอ้างของนายปูตินที่ว่า รัสเซียจะชนะสงครามกับยูเครน เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวมากกว่า (ซึ่งไม่ตรงกับสถานการณ์จริงในสนามรบ) ย้ำว่า ที่ผ่านมา ทหารรัสเซียเสียชีวิตจำนวนมากในการสู้รบกับยูเครน อีกทั้งไม่อาจจะแย่งเมืองใหญ่ๆไปจากยูเครนแม้แต่เมืองเดียวในปีที่แล้ว
นายเซเลนสกี ยังแสดงความรู้สึกผิดหวังกับท่าทีของพันธมิตรจากตะวันตก ระบุว่าพวกเราเริ่มหมดความกระตือรือร้นในการช่วยเหลือด้านอาวุธแก่ยูเครน
ก่อนหน้านี้ ผู้นำทั้งสองปราศรัยต่อประชาชนในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2024 โดยนายปูติน ยกย่องทหารรัสเซียว่าเป็นวีรบุรุษ โดยไม่เอ่ยถึงเรื่องสงครามในยูเครน ขณะที่ นายเซเลนสกี ปราศรัยต่อประชาชนในโอกาสวันปีใหม่ ให้คำมั่นจะเพิ่มจำนวนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในประเทศมากขึ้น พร้อมให้คำมั่นจะผลิตโดรนอย่างน้อย 1 ล้านลำในปีนี้
#สงครามยูเครน