หลังจากเกิดเหตุระเบิดหลายจุด ในพื้นที่ของจังหวัดยะลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวภายหลังการประชุมทีมพูดคุยสันติสุข ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าระวัง ให้เข้มงวดมากขึ้น มองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อให้รัฐ รู้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุยังมีศักยภาพอยู่ แต่ปัญหาในการดูแลในพื้นที่ คือไม่สามารถตรวจคนหรือรถที่เดินทางเข้าออกได้หมด แต่จากนี้จะต้องเข้มงวดการตรวจสอบให้มากขึ้นโดยประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น ซึ่งอาจจะกระทบกับความสะดวกในการใช้ชีวิตบ้าง แต่เพื่อความปลอดภัย รัฐบาล ก็จะทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ขอว่าอย่าเสนอข้อมูลที่สร้างความเสียหายในสายตาของต่างประเทศ เพราะวันนี้ ถือว่ารัฐบาลสามารถชี้แจงและทำความเข้าใจได้ว่าเหตุการณ์ต่างเกิดขึ้นในพื้น 3จังหวัดชายแดนใต้เท่านั้น และรัฐบาลก็พยายามจะดูแลไม่ให้ขยายผลไปพื้นที่อื่น ขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือสื่อให้เสนอข่าวทั้งสองด้านตามข้อเท็จจริง รวมถึงการดำเนินงานแก้ปัญหาของรัฐบาลด้วย
ขณะที่นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวว่า ที่ประชุมในวันนี้ได้รายงานความคืบหน้าการพูดคุยสันติภาพระหว่างทางการไทยกับทางการมาเลเซีย ซึ่งมีการพูดคุยกันมาตลอด นอกเหนือจากเหตุระเบิดเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระเบิดป่วนเมือง ที่จะพยายามดึงมวลชนกลับ ส่วนเรื่องหลักฐานขณะนี้ยังไม่ชัดเจน ส่วนเรื่องกฎหมายก็จะต้องดูเรื่องการสวมหมวกกันน็อคในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ให้มากขึ้น ซึ่งฝ่ายความมั่นคงจะกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลให้ละเอียด และปรับปรุงมาตรการให้มีประสิทธิภาพ พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวัง และรายงานข่าวมาตลอด ซึ่งขณะนี้ทางมาเลเซีย ที่เป็นผู้ประสานงานจะรวบรวมกลุ่มต่างๆและจะเริ่มการพูดคุยได้ในต้นเดือน มิ.ย. นี้
วิรวินท์