ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เยอรมนีและฝรั่งเศส เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในสถานที่สำคัญๆทั่วประเทศ รวมทั้งเพิ่มด่านตรวจและเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย สำหรับโบสถ์คริสต์ต่างๆ ก่อนการจัดงานฉลองเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปี 2024 ในคืนนี้ หลังจากหน่วยข่าวกรองของประเทศทั้งสองเตือนว่า การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในเขตฉนวนกาซาในช่วงนี้ อาจจะเพิ่มความเสี่ยง ที่กลุ่มก่อการร้ายจะฉวยโอกาสเข้าโจมตีประเทศทั้งสองในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
นายมาร์ติน ล็อตซ์ ตำรวจในเมืองโคโลญ เยอรมนีพูดในการแถลงข่าวว่า เมืองโคโลญได้เพิ่มกำลังตำรวจเข้ามาดูแลความมั่นคงในสถานที่สำคัญๆทั่วทั้งเมือง หลังมีรายงานข่าวกรองว่า กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงบางกลุ่มอาจจะเตรียมวางแผนก่อเหตุโจมตีโบสถ์คริสต์ในช่วงคืนฉลองวันส่งท้ายปี
แต่โบสถ์คริสต์ของเมืองโคโลญโพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ว่า โบสถ์ของเมืองโคโลญจะยังเปิดให้คริสต์ศาสนิกชน เข้าไปไหว้พระและสวดมนต์ในคืนส่งท้ายปี ไปจนกว่าจะประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น เนื่องจากสถานการณ์ด้านความมั่นคง ขณะเดียวกัน ตำรวจในกรุงเบอร์ลินโพสต์ข้อความทางแพล็ตฟอร์มเอ็กซ์ เตือนประชาชนให้ระวังอันตราย จากการจุดพลุดอกไม้ไฟฉลองคืนส่งท้ายปีในค่ำคืนนี้ พร้อมขอร้องไม่ให้ประชาชนทำร้ายเจ้าหน้าที่เช่น ขว้างพลุหรือดอกไม้ไฟใส่ตำรวจ เตือนว่า คนที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
คำเตือนเรื่องนี้มีขึ้นหลังการฉลองคืนวันส่งท้ายปีในปีที่แล้ว บานปลายเกิดเหตุจลาจล มีคนบาดเจ็บหลายคน รวมถึงตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จากการที่ผู้ประท้วงบางคนขว้างประทัดหรือดอกไม้ไฟใส่เจ้าหน้าที่
ส่วนในฝรั่งเศส นายเจอราลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ฝรั่งเศสจะระดมกำลังตำรวจ 90,000 นาย ดูแลความปลอดภัยสถานที่สำคัญๆทั่วประเทศในคืนฉลองเคาน์ดาวน์ในคืนนี้ หลังหน่วยข่าวกรองเตือนว่ามีโอกาสสูงมาก ที่จะอาจจะเกิดภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในฝรั่งเศส เป็นผลสืบเนื่องจากการสู้รบอิสราเอล-ฮามาสในเขตฉนวนกาซาในปัจจุบัน
นอกจากภัยก่อการร้าย ฝรั่งเศสต้องเฝ้าระวังการทำผิดกฎหมายอาญาอื่นๆซึ่งเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ เช่น การเผารถ ในช่วงที่ผู้คนส่วนใหญ่เฉลิมฉลองวันเคาท์ดาวน์ โดยในคืนส่งท้ายปีเมื่อ31 ธ.ค.2565 มีรถถูกเผาลดลงเหลือ 690 คัน จาก 874 คันในวันที่ 31 ธ.ค.2564
#ยุโรป
#เฝ้าระวังก่อการร้าย
#คืนส่งท้ายปี