บีบีซีและซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างผู้ว่าการแคว้นเบลโกรอดของรัสเซียว่า ยูเครนได้ยิงจรวดและส่งโดรนเข้าโจมตีแคว้นเบลโกรอด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ไม่ห่างจากชายแดนยูเครนเมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิต 21 ราย รวมถึงเด็ก 3 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 110 คน นับเป็นหนึ่งในเหตุโจมตีที่มีชาวรัสเซียเสียชีวิตมากที่สุด นับแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อต้นปีที่แล้ว
นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงรัสเซีย ได้รายงานต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อทราบแล้ว กล่าวหายูเครนใช้อาวุธหลายชนิดในการโจมตีย่านชุมชน ในแคว้นเบลโกรอดเมื่อวานนี้ เช่น จรวดโอลคา(Olkha)ของยูเครน และจรวดแวมไพร์ (Vampire)ซึ่งผลิตในสาธารณรัฐเช็ก รวมถึงโดรนกว่า 70 ลำ
ด้านแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของยูเครน กล่าวว่า ยูเครนมุ่งโจมตีเฉพาะฐานทัพรัสเซีย ไม่ได้โจมตีย่านชุมชน พร้อมชี้แจงสาเหตุในการโจมตีรัสเซียเมื่อวานนี้ ว่า เพื่อตอบโต้รัสเซีย หลังระดมขีปนาวุธโจมตีในหลายเมืองทั่วประเทศยูเครนเมื่อวันศุกร์ มีคนเสียชีวิต 39 ราย ซึ่งยูเครนระบุว่า เป็นหนึ่งในการโจมตีด้วยขีปนาวุธระลอกใหญ่ที่สุดจากรัสเซียนับแต่รัสเซียและยูเครนสู้รบกันในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นายวาซิลี เนเบนซยา เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ เสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในนครนิวยอร์กนัดประชุมด่วนเมื่อวานนี้ กล่าวหายูเครนจงใจโจมตีย่านชุมชนในรัสเซีย ขณะเดียวกัน ทูตฝรั่งเศส สหรัฐฯและอังกฤษซึ่งเป็นพันธมิตรของยูเครน ปฏิเสธคำอ้างของรัสเซียทันที ระบุว่า ยูเครนทำการป้องกันตนเองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ เพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีปูตินต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของพลเมืองชาวรัสเซียเนื่องจากเป็นฝ่ายเริ่มต้นทำสงครามกับยูเครนก่อน
#สงครามยูเครน