ชาวปาเลสไตน์เร่งอพยพออกจากตอนกลางของฉนวนกาซา สหประชาชาติ ยอมรับอุปสรรคในการส่งความช่วยเหลือ

          ชาวปาเลสไตน์จำนวนกว่า 150,000 คน เร่งอพยพออกจากค่ายผู้ลี้ภัยในพื้นที่ตอนกลางของฉนวนกาซาลงไป ที่เมืองเดอีร์ อัล-บาลาห์ ตามประกาศเตือนของทางการอิสราเอล ที่มีการระดมโจมตีพื้นที่ตอนกลางของฉนวนกาซา ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เฉพาะในรอบ 24 ชั่วโมงของวันพฤหัสบดี (28 ธ.ค.66) มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 210 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยราย เป็นหนึ่งในวันที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม

          สภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ เพิ่มเติมว่า พบผู้เสียชีวิต 10 ราย ใกล้กับโรงพยาบาลอัล-อามาล ที่ข่าน ยูนิส เมืองใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของฉนวนกาซา ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นเป็น 21,320 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 55,603 คน

          ขณะที่กองทัพอิสราเอลสูญเสียกำลังพลไปมากกว่า 500 นาย และอ้างว่า สังหารสมาชิกกลุ่มฮามาสไปแล้วมากกว่า 8,000 ราย

          ด้านสหประชาชาติ รายงานว่า วิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาเลวร้ายยิ่งขึ้น หลังจากที่อิสราเอลระดมโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยทางตอนกลางของฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย นายมาร์ติน กริฟฟิธ รองเลขาธิการสหประชาชาติ ฝ่ายกิจการมนุษยธรรมและผู้ประสานงานบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า การจัดส่งความช่วยเหลือให้แก่ประชาชนในฉนวนกาซายากมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่การถูกตรวจสอบสิ่งของ ถูกห้ามเข้าไปในพื้นที่ จนถึงการที่ต้องทำงานท่ามกลางการโจมตีอย่างต่อเนื่อง แม้แต่รถของหน่วยงานบรรเทาทุกข์ยังถูกโจมตี มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บในระหว่างการทำงาน

          นาย โทมัส ไวท์ ผู้อำนวยการ สำนักงานบรรเทาทุกข์และการทำงานของสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ หรือ UNRWA ในฉนวนกาซา เปิดเผยว่า ทหารอิสราเอลยิงขบวนรถบรรเทาทุกข์ในวันนี้ (29 ธ.ค.66) ทั้งที่พวกเขากำลังเดินทางกลับมาจากทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ตามเส้นทางที่กองทัพอิสราเอลเป็นผู้กำหนด เหตุการณ์นี้ไม่ทำให้มีผู้บาดเจ็บ แต่ทำให้รถบรรทุกได้รับความเสียหาย

...

#ฉนวนกาซา

#อิสราเอล

#สหประชาชาติ