*โฆษก กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้าประณามเหตุระเบิดในจ.ยะลา เมื่อคืนและช่วงเช้าวันนี้*

หลังเกิดเหตุระเบิดหลายจุดในจ.ยะลา พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นทางการข่าวพอทราบข้อมูลในเบื้องต้นว่า จะมีการก่อเหตุสถานการณ์รุนแรงขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน เกี่ยวกับวันที่จะทำการก่อเหตุ ทั้งนี้ แนวทางการสืบสวนก็ยังไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุ หรือผู้ต้องสงสัย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเร่งดำเนินการตรวจคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุอยู่  หลังมีเกิดการระเบิด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย พร้อมกับระวังการเข้าตรวจที่เกิดเหตุ และเฝ้าหาข่าว และนอกจากนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้ดำเนินการส่งกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ชุดเคลื่อนที่เร็วลงไปยังพื้นที่เกิดเหตุแล้ว

สำหรับ สรุปเหตุการณ์ระเบิดในเขตพื้นที่เมืองยะลา ตั้งแต่เมื่อเวลา 19.15 น. ของวันที่ 14 พ.ค.2558 ถึงช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ค.2558 มีเหตุการณ์รวมทั้งสิ้น 28 จุด ส่วนผู้บาดเจ็บจากเหตุวางระเบิดป่วนเมืองยะลา ตั้งแต่เมื่อคืนนี้  18 ราย และเมื่อช่วงเช้าได้รับบาดเจ็บอีก จำนวน 2 ราย รวมผู้บาดเจ็บจำนวน 20 ราย 

พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจยะลา บูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย เข้าควบคุมสถานการณ์ และบริหารจัดการสถานที่เกิดเหตุตามขั้นตอนของแผนรักษาความปลอดภัย เมืองยะลา โดยจากการตรวจสอบในขั้นต้น พบว่ากลุ่มคนร้ายได้ใช้วัตถุระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กแบบพกพา กระจายไปวางยังจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลนครยะลา จำนวนหลายจุด ซึ่งผลจากแรงระเบิดทำให้พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 20 ราย และทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยได้นำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา และพบว่าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย 17 ราย ซึ่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ และยังคงพักรักษาตัว จำนวน 3 ราย ปัจจุบันอาการปลอดภัย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ กลุ่มขบวนการมุ่งหวังเพื่อสร้างสถานการณ์ก่อกวนให้เกิดความวุ่นวาย สร้างความเดือดร้อน และความเสียหายให้เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว และทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจ โดยไม่คำนึงถึงเป้าหมาย ซึ่งมีผู้รับผลกระทบ ทั้งพี่น้องไทยพุทธและพี่น้องไทยมุสลิม เป็นการกระทำที่สุดโต่ง ไร้ซึ่งมนุษยธรรม ซึ่งสมควรต้องได้รับการประณามจากทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง