ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างผู้นำชุมชนปาเลสไตน์ว่า ในเทศกาลคริสต์มาสอีฟ(24 ธ.ค.)ทุกปี เสียงระฆังจากโบสถ์คริสต์ต่างๆจะดังก้องกังวานทั่วท้องถนนต่างๆในเมืองเบธเลเฮมในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นเมืองที่ชาวคริสต์เชื่อว่า เป็นสถานที่ประสูติของพระเยซู ศาสดาของศาสนาคริสต์ นอกจากนี้ เมื่อใกล้ถึงวันคริสต์มาส 25 ธ.ค.ทุกปี นักท่องเที่ยวจำนวนมาก
โดยเฉพาะผู้แสวงบุญชาวคริสต์จากทั่วโลก จะทยอยเดินทางมายังเมืองเบธเลเฮม เพื่อร่วมฉลองเทศกาลที่โบสถ์พระคริสตสมภพ (Church of the Nativity)ในเมืองเบธเลเฮม ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งแรกของปาเลสไตน์ แต่ปรากฏว่า ปีนี้ แทบจะไม่มีผู้แสวงบุญไปสวดมนต์ไหว้พระเหมือนทุกปี ทำให้ธุรกิจที่พึ่งพานักท่องเที่ยว เช่น โรงแรม,ร้านค้าและร้านอาหาร ปิดชั่วคราวเป็นส่วนใหญ่
เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นำชุมชนตัดสินใจ ให้มีการปรับลดการจัดกิจกรรมฉลองคริสต์มาสอีฟ เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซา ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งดำเนินมา 78 วันแล้ว ทั้งไม่ให้มีการประดับตกแต่งย่านชุมชน งดการจัดขบวนแห่และกิจกรรมเฉลิมฉลองทางศาสนา ไม่มีการตั้งต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่จัตุรัสแมงเกอร์ (Manger Square) ใจกลางเมืองเบธเลเฮม ซึ่งแตกต่างจากปีก่อนๆ
นอกจากนี้ โดยปกติ การเดินทางไปยังเมืองเบธเลเฮม ซึ่งอยู่ห่างราว 8 กิโลเมตรจากตอนใต้ของกรุงเยรูซาเลม ไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากอิสราเอลจัดตั้งแนวกั้น และด่านตรวจต่างๆเป็นระยะๆตลอดแนวทางเข้า-ออก เพื่อควบคุมการเข้าออกเมืองนี้และเมืองอื่นๆในเขตเวสต์แบงก์ และอิสราเอลยิ่งเข้มงวดเรื่องการเดินทางมากขึ้น นับแต่เกิดการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส
กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 20,000 รายจากการโจมตีทางอากาศและการบุกทางภาคพื้นดินของอิสราเอล และเกือบร้อยละ 85 ของประชากร 2.3 ล้านคนในเขตฉนวนกาซาไร้ที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกัน ชาวบ้านหลายคนในเขตเวสต์แบงก์ มีครอบครัว หรือเพื่อนๆอยู่ในเขตฉนวนกาซา ทำให้ชาวบ้านในเมืองเบธเลเฮมรู้สึกสะเทือนใจต่อสงครามในเขตฉนวนกาซา
#คริสต์มาสอีฟ
#เมืองเบธเลเฮม