ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ แสดงความเสียใจที่ได้รับทราบว่า พลเมืองอิสราเอล-อเมริกันรายหนึ่งที่เข้าใจว่าถูกฮามาสลักพาตัวไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พร้อมกับภรรยาอาจถูกกลุ่มฮามาสสังหารตั้งแต่ในตอนที่บุกโจมตีภาคใต้อิสราเอล แล้วนำร่างของเขาไปที่ฉนวนกาซา ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เขารู้สึกใจสลายที่ได้รับทราบข่าว และขอให้ภรรยาของพลเมืองอิสราเอล-อเมริกันรายนี้ กลับมาอย่างปลอดภัย
ที่ผ่านมาทางการสหรัฐฯ เชื่อว่า นายกาดี แฮกไก อายุ 73 ปีชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอล และภรรยาจะอยู่ในกลุ่มตัวประกันที่ถูกลักพาตัวไปยังกาซา แต่เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.66) ตัวแทนครอบครัวตัวประกันเปิดเผยว่า นายแฮกไก เสียชีวิตตั้งแต่ในวันที่ฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลแล้วนำร่างของเขาไปฉนวนกาซา
สื่อในอิสราเอลรายงานว่านางจูดิธ ไวน์สตีน อายุ 70 ปี ภรรยาของนายแฮกไก ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา
เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน บุตรสาวของทั้งคู่ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเธอเห็นคลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าบิดาถูกกลุ่มฮามาสสังหารแล้วนำร่างของเขากลับไปด้วย แต่เธอไม่ทราบว่ามารดายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
กลุ่มฮามาสได้บุกโจมตีคิบบุตซ์ เมืองชายแดน และเทศกาลดนตรีในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,200 คน และลักพาตัวประกันอีกประมาณ 240 คน แต่ปฏิบัติการของอิสราเอลทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 20,000 คน
ทางการอิสราเอล ระบุว่า ยังมีตัวประกันอีก 129 คนถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซา หลังจากที่ตัวประกันผู้หญิงและเด็กได้รับการปล่อยตัวในระหว่างที่มีการหยุดยิงชั่วคราว แต่ 22 คนในกลุ่มนี้เสียชีวิตไปแล้ว ขณะที่ฮามาสไม่ยืนยันรายงานนี้ แต่เตือนว่า “เวลาเหลือน้อยเต็มที” สำหรับเหล่าตัวประกัน เนื่องจากสงครามยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 12 แล้ว
นอกจากนี้ กลุ่มองค์กรช่วยเหลือตัวประกันและผู้สูญหาย เพิ่มเติมว่า ในบรรดาตัวประกันที่ยังถูกจับอยู่มีประมาณ 5-10 คนที่ถือสัญชาติอเมริกัน
...
#ตัวประกัน
#อิสราเอล
#ฮามาส