คณะมนตรีความมั่นคงฯ ผ่านความเห็นชอบมติช่วยเหลือฉนวนกาซา หลังสหรัฐ, รัสเซียงดออกเสียง

          ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ผ่านความเห็นชอบในญัตติสนับสนุนให้คู่ขัดแย้งในฉนวนกาซาหยุดยิงชั่วคราวเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่พื้นที่ได้อย่างปลอดภัย และให้มีการกำหนดเงื่อนไข เพื่อนำไปสู่การยุติความรุนแรงอย่างยั่งยืน

          การลงมติในครั้งนี้ ได้รับเสียงสนับสนุน 13 เสียง ส่วนสหรัฐฯและรัสเซีย ซึ่งเป็นสมาชิกถาวร ใช้สิทธิ์งดออกเสียง

          นางลินดา โธมัส กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงฯ เรียกร้องให้มีขั้นตอนเร่งด่วนเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้อย่างปลอดภัย และการสร้างเงื่อนไขสำหรับการยุติความเป็นปรปักษ์อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ จะต้องมีการปล่อยตัวประกันในทันที ทั้งอิสราเอลและฮามาสจะต้องเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังผิดหวังอย่างยิ่งที่มติของที่ประชุมฉบับนี้ไม่ได้ประณามกลุ่มฮามาสที่ก่อเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 คนในอิสราเอล

          ส่วนรัสเซียที่ใช้สิทธิ์งดออกเสียงในที่ประชุม ต้องการให้มีการใช้ถ้อยคำตำหนิอิสราเอล ซึ่งนายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า ญัตติฉบับนี้ผ่านการแก้ไขหลายครั้ง จนไม่มีถ้อยคำประณามการโจมตีพลเรือน ทำให้เป็นการลงมติที่บอกกับประชาคมระหว่างประเทศ ว่าคณะมนตรีความมั่นคงสนับสนุนให้อิสราเอลก่ออาชญากรรมสงคราม

          กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ รายงานว่า การโจมตีฉนวนกาซาเป็นเวลานานกว่า 10 สัปดาห์ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 20,000 ราย

          ญัตติฉบับนี้ ร่างขึ้นโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่มีการแก้ไขถ้อยคำหลายครั้ง เพื่อให้สหรัฐฯ เห็นชอบ หลังจากที่ใช้สิทธิ์ยับยั้งร่างญัตติที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลมาแล้วหลายครั้งจนญัตติต้องตกไป โดยประเด็นที่นักการทูตในคณะมนตรีความมั่นคงฯมีการเจรจากันอย่างเคร่งเครียดมานานหลายวันไม่ใช่เรื่องเงื่อนไขของการยุติสงคราม แต่เกี่ยวกับถ้อยคำเกี่ยวกับการเรียกร้องให้ยุติความเป็นศัตรูกันและการตรวจสอบสินค้าที่จะส่งเข้าไปในฉนวนกาซา ซึ่งในปัจจุบันอิสราเอลจะเป็นผู้ตรวจสอบเพียงฝ่ายเดียว เพื่อคัดแยกอาวุธและอุปกรณ์อื่นๆ ที่อาจนำไปสนับสนุนการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มฮามาส ซึ่งในฉบับร่างของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระบุให้เป็นหน้าที่ของสหประชาชาติ ผลของการเจรจาได้ข้อสรุปให้เป็นหน้าที่ของอิสราเอลเช่นเดิม และสหประชาชาติจะมีผู้ประสานงานอาวุโสจัดตั้งกลไกเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

          นายกิลัด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ กล่าวขอบคุณสหรัฐฯ ที่เคียงข้างอิสราเอล และรักษาอำนาจของอิสราเอลในการตรวจสอบความช่วยเหลือที่เข้าสู่ฉนวนกาซา ทั้งกล่าวด้วยว่า ความล้มเหลวของสหประชาชาติในช่วง 17 ปีที่ผ่านมาทำให้กลุ่มฮามาสขุดอุโมงค์ ผลิตขีปนาวุธและจรวด จึงเป็นที่ชัดเจนว่าไม่สามารถไว้วางใจสหประชาชาติทำหน้าที่ตรวจสอบความช่วยเหลือที่เข้ามายังฉนวนกาซาได้

          แต่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า การหยุดยิงคือความต้องการของประชาชนในฉนวนกาซา และยุติความรุนแรงที่กำลังดำเนินอยู่ ทั้งกล่าวตอบโต้คำกล่าวของนักการทูตอิสราเอลว่าการช่วยเหลือที่มีประสิทธิผลในฉนวนกาซาจำเป็นต้องมีการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย และมีกิจกรรมเชิงพาณิชย์อีกครั้ง ทั้งเห็นว่า จากข้อกล่าวหาที่ว่ากลุ่มฮามาสใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ และการยิงจรวดใส่เป้าหมายพลเรือนอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถเป็นเหตุให้ต้องลงโทษชาวปาเลสไตน์โดยรวม

...

#อิสราเอล

#ฮามาส

#สหรัฐอเมริกา

#รัสเซีย

#สหประชาชาติ

#ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม