องค์การอนามัยโลก รายงานว่า พื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซาในขณะนี้ ไม่มีโรงพยาบาลที่สามารถเปิดให้บริการได้อีกต่อไป โดยมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจำนวนหนึ่งไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่อื่นแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง ต้องตกอยู่ในสภาพที่ไม่มีทั้งอาหารและน้ำ
นายริชาร์ด ปีเปอร์คอร์น ผู้แทนองค์การอนามัยโลกในฉนวนกาซา ชี้แจงผ่านการประชุมออนไลน์ว่า ทั่วทั้งพื้นที่ฉนวนกาซา มีโรงพยาบาล 36 แห่ง แต่เปิดให้บริการได้เพียง 9 แห่ง โดยในทางตอนเหนือไม่มีโรงพยาบาลที่ใช้งานได้จริง รวมถึงโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี ที่ยังให้การรักษาผู้ป่วยใน แต่ก็ไม่สามารถรับผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยรายใหม่ ซึ่งเขาอธิบายว่า อัล-อาห์ลีมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 คน ซึ่งเป็นแพทย์และพยาบาลรุ่นใหม่ทั้งหมด ให้การดูแลรักษาผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ขาดแคลนเชื้อเพลิง ไฟฟ้า และเวชภัณฑ์ ซึ่งเขาเรียกร้องให้มีการสนับสนุนการทำงานเพื่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเหล่านี้ไปรักษาในโรงพยาบาลนอกฉนวนกาซา
สงครามในฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 20,000 ราย ซึ่งร้อยละ 70 เป็นผู้หญิงและเด็ก นายฌอน เคซีย์ ผู้ประสานงานทีมการแพทย์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ในฉนวนกาซา กล่าวว่า ที่อัล อาห์ลี ยังมีร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการประกอบพิธีทางศาสนาเนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่มีความปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลก็ขาดแคลนอาหารและน้ำ เขาได้ย้ำถึงการเรียกร้องให้หยุดยิงอย่างเร่งด่วน เพื่อให้มีการส่งความช่วยเหลือผู้รอดชีวิต และอพยพผู้ป่วยออกจากฉนวนกาซาเพิ่มมากขึ้น
เขากล่าวว่า ทุกพื้นที่ที่ทีมงานขององค์การอนามัยโลกไปถึง จะพบกับผู้คนที่อดอยากและร้องขออาหาร แม้แต่ในโรงพยาบาล ผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บก็ยังร้องขออาหาร
...
#ฉนวนกาซา
#องค์การอนามัยโลก