สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศเปิดจุดผ่านแดนคาเร็ม อาบู ซาเลม หรือเคเรม ชาลอมอีกครั้ง ตามข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้มีการส่งความช่วยเหลือประชาชนในฉนวนกาซาได้มากขึ้น และเกิดขึ้นในขณะที่นาย เจค ซัลลิแวน โฆษกความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ เดินทางเยือนภูมิภาคนี้ ท่ามกลางการต่อสู้รุนแรงอย่างต่อเนื่อง
ในแถลงการณ์ระบุว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ใช้มาตรการชั่วคราวเพื่อเปิดจุดผ่านแดน และจะมีความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่มาจากอียิปต์เท่านั้นที่จะถูกส่งไปยังฉนวนกาซา
ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จุดผ่านแดนราฟาห์จากอียิปต์เป็นเพียงจุดเดียวที่สามารถส่งความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการในพื้นที่ นอกจากนี้การโจมตีของอิสราเอลยังทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 18,000 รายและมีผู้พลัดถิ่นร้อยละ 80 ของผู้อยู่อาศัยทั้งหมด หน่วยงานของสหประชาชาติ และองค์กรเอกชนรายงานปัญหาขาดแคลนอาหาร น้ำสะอาด และยารักษาโรค ทั้งระบุว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลทำให้อาสาสมัครไม่สามารถแจกจ่ายความช่วยเหลือนอกเมืองราฟาห์ ขณะที่มีผู้พลัดถิ่นเข้ามาพักอยู่ในราฟาห์ประมาณ 1 ล้านคนแล้ว
อัลจาซีราะห์ รายงานว่า อิสราเอลอนุญาตให้มีรถบรรทุกเดินทางผ่านเคเรม ชาลอม ได้วันละ 200 คัน น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งความช่วยเหลือก่อนที่สงครามจะเริ่มต้น ซึ่งในเวลานั้นมีรถบรรทุกวันละ 500 คัน
ส่วนวาฟาสื่อของทางการของปาเลสไตน์ รายงานว่า ในการที่นายซัลลิแวนพบหารือกับ ประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ที่รามัลเลาะห์ เขาได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียพลเรือนชาวปาเลสไตน์ ในฉนวนกาซา ขณะที่ประธานาธิบดีอับบาสเรียกร้องให้สหรัฐฯ เข้าแทรกแซงสถานการณ์ และบังคับให้อิสราเอลหยุดการรุกราน ทั้งยอมรับว่า การปกครองของรัฐบาลกลางมีปัญหา เนื่องจากการใช้นโยบายการประสานงานด้านความมั่นคงกับอิสราเอล ทำให้ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากมองว่ารัฐบาลกลางสนับสนุนให้อิสราเอลเข้ามายึดครอง นอกจากนี้ ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากยังไม่ไว้วางใจสหรัฐฯ
…
#อิสราเอล
#ฮามาส
#สหรัฐฯ
#เปิดจุดผ่านแดน