NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดภาพความสวยงาม ฝนดาวตกเจมินิดส์ปีนี้มีปริมาณมากสุดถึง 120 ดวงต่อชั่วโมง บรรยากาศเฝ้าชมปรากฏการณ์คืนวันที่ 14 ธ.ค.66 ถึงช่วงรุ่งเช้าวันนี้ (15 ธ.ค.66) ชาวไทยทั่วประเทศไม่ผิดหวัง เริ่มเห็นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ เนื่องจาก ไร้แสงจันทร์รบกวน บางดวงมีลักษณะเป็นลูกไฟขนาดใหญ่พาดผ่านฟ้าสวยงามมาก สื่อออนไลน์คึกคักขึ้นอันดับเทรนด์ไทยยอดนิยม
ปีนี้เป็นปีที่เหมาะในการสังเกตการณ์ฝนดาวตกอย่างมาก เนื่องจาก ไร้แสงจันทร์รบกวนตลอดคืน ผู้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ปราศจากแสงรบกวน มีทัศนวิสัยท้องฟ้าดี ไม่มีเมฆบดบัง สามารถชมความสวยงามของฝนดาวตกกันได้อย่างเต็มตา

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ จัดกิจกรรมชมฝนดาวตกเจมินิดส์ที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ. เชียงใหม่ มีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,300 คน ปักหลักชมฝนดาวตกกันเต็มพื้นที่ สามารถสังเกตฝนดาวตกได้หลายดวง และเห็นดาวตกชนิดลูกไฟ (Fireball) หลายสิบดวง เมื่อมีผู้พบเห็นฝนดาวตกก็ต่างส่งเสียงร้องชี้ชวนกันให้ดู สร้างบรรยากาศที่สนุกสนานและน่าประทับใจตลอดคืน
นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมที่หอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนทั้ง 4 แห่ง ในจังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา นอกเหนือจากการชมฝนดาวตกแล้ว ยังตั้งกล้องส่องวัตถุท้องฟ้าในคืนดังกล่าว เช่น ดาวเสาร์ ดาวพฤหัสบดี กาแล็กซีแอนโดรเมดา เนบิวลานายพราน เป็นต้น มีผู้สนใจเดินทางเข้าร่วมจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม พื้นที่บริเวณภาคใต้ของประเทศไทยมีเมฆมากและฝนตก จึงสังเกตการณ์ได้ค่อนข้างยาก
ฝนดาวตกเจมินิดส์ หรือ ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ จะเกิดในช่วงระหว่างวันที่ 4-20 ธ.ค.ของทุกปี มีศูนย์กลางการกระจายบริเวณกลุ่มดาวคนคู่ เกิดจากโลกเคลื่อนผ่านสายธารของเศษหินและฝุ่นขนาดน้อยใหญ่ที่ดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) หลงเหลือทิ้งไว้เมื่อครั้งเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน แรงโน้มถ่วงของโลกจะดึงดูดเศษหินและฝุ่นเหล่านั้นเข้ามาในชั้นบรรยากาศ เกิดการเสียดสีและเผาไหม้ ปรากฏให้ผู้สังเกตการณ์บนโลกเห็นเป็นลำแสงคล้ายลูกไฟสว่างวาบเคลื่อนผ่านท้องฟ้า
ฝนดาวตกเจมินิดส์ในครั้งถัดไป คาดว่าจะมีอัตราการตกสูงสุดในช่วงระหว่างวันที่ 13-15 ธ.ค.67 อย่างไรก็ตาม ในช่วงดังกล่าวจะมีแสงจันทร์รบกวน จึงไม่เหมาะต่อการสังเกตการณ์
#ฝนดาวตกเจมินิดส์
CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ