กรมราชทัณฑ์ ย้ำ 'ทักษิณ' ป่วยจากโรคประจำตัว - รพ.ตร.ย้ำให้ข้อมูลผู้ป่วยไม่ได้

14 ธันวาคม 2566, 13:39น.


          อาการของ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจใกล้ครบ 120 วัน พ.ต.อ.หญิงศิริกุล ศรีสง่า โฆษก รพ.ตร. กล่าวว่า ในส่วนของอาการคนไข้ เป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่สามารถเปิดเผยหรือให้ข้อมูลกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ญาติ คนในครอบครัวหรือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ พร้อมยืนยันว่าคนไข้ที่ทางราชทัณฑ์ส่งมาโรงพยาบาลตำรวจ มีระบบรักษาตามมาตรฐานอยู่แล้วในการดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างเท่าเทียม



          กรณีกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และการตำรวจ จะไปตรวจสอบที่ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา สถานที่รักษาตัวของ น.ช.ทักษิณ นั้น ว่า หากมีการแจ้งมาทางโรงพยาบาลตำรวจ ก็จะต้องประสานไปยังกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นเรื่องเพื่อให้พิจารณาและดำเนินการตามระเบียบ ส่วนจะอนุญาตหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้



          นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานกรรมาธิการตำรวจ เปิดเผยว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวัง ที่กรรมาธิการได้สอบถามถึงกระบวนการและขั้นตอนการรับนายทักษิณเข้าสู่เรือนจำ และมาตรการในการส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ไม่ได้รับคำตอบที่กระจ่างชัดเจนจากทางกรมราชทัณฑ์ อธิบายเพียงว่า นักโทษที่เข้าสู่เรือนจำจะต้องกักตัวในแดนแรกรับ 5-10 วันแแต่กรณีของนายทักษิณ ผู้บัญชาการเรือนจำชี้แจงว่าแพทย์ได้วินิจฉัย ว่าควรจะส่งตัวไปที่ รพ.ตำรวจ แต่รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยืนยันว่าไม่มีการวินิจฉัยดังกล่าว มีเพียงการปรึกษาหารือกันในช่วงกลางคืน ในวันที่นายทักษิณถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ถึงเรื่องโรคประจำตัว พยาบาลจึงได้ต่อสายมาโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อปรึกษาข้อมูล แพทย์จึงได้ให้คำแนะนำว่า รพ.ราชทัณฑ์ มีเครื่องมือเท่าไหร่ อย่างไรบ้าง เพื่อให้พยาบาลมาวิเคราะห์กับเจ้าหน้าที่พัศดีว่า ควรส่งตัวนายทักษิณไปรักษาที่ไหน ซึ่งผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ คือ ผบ.เรือนจำ เบื้องต้นแพทย์แจ้งว่านายทักษิณ มีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบตันและไวรัสตับอักเสบ B  จากเห็นว่า หากดูจากภาพถ่าย ในโซเชียลมีเดีย นายทักษิณไม่น่าจะเป็นโรคไวรัสตับอักเสบB เพราะถ้าเป็นจะดื่มไวน์กับลูกสาวไม่ได้ และล่าสุดก็เห็นว่าเต้นแรปเตอร์



         นอกจากนั้น กรมราชทัณฑ์ไม่สามารถตอบได้ว่าทำไม นายทักษิณถึงถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 และทำไมถึงไม่ต้องตัดผม เมื่อตอบไม่ได้จึงยุติการประชุม พร้อมขอให้ผู้ที่มีอำนาจในการชี้แจงมาอธิบายต่อกรรมาธิการ จึงได้ทำหนังสือเชิญ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ,ปลัดกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาร่วมประชุมในครั้งถัดไป พร้อมทั้งทำหนังสือขอเอกสารการทำ MOU ระหว่างกรมราชทัณฑ์กับโรงพยาบาล งบประมาณในการดูแลนักโทษที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงความเห็นของแพทย์ที่รักษา และวินิจฉัยอาการของนายทักษิณก่อนส่งตัวไปโรงพยาบาล ตลอดจนรายชื่อของเจ้าหน้าที่ที่ผลัดเปลี่ยนดูแลนายทักษิณ



         สิ่งที่ทำให้ผิดหวัง คือเมื่อนักวิชาการของกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่าการรักษาตัวในโรงพยาบาลใช้งบประมาณของ สปสช.เท่ากันทุกคน แต่ทำไมนายทักษิณจึงได้รักษาตัวที่ชั้น 14 ทำไมไม่ได้รับการรักษาตัวเหมือนนักโทษคนอื่น ซึ่งตนเองได้ถามด้วยว่าได้มีการล่ามโซ่ตรวน นายทักษิณกับเตียงนอนของผู้ป่วยหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบในเรื่องนี้



          ดังนั้น หลังจากผู้บังคับบัญชาสูงสุดของแต่ละหน่วยงานมาชี้แจงต่อกรรมาธิการแล้ว กรรมาธิการจะลงพื้นที่ไป รพ.ตำรวจ คาดว่าเป็นช่วงหลังปีใหม่



          ส่วนจะสามารถกำหนดวันลงพื้นที่ได้เลยหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะไม่ทัน เพราะนายทักษิณอาจออกจาก รพ. ไปคุมขัง นอกเรือนจำตามระเบียบใหม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ขณะนี้นายทักษิณยังป่วยอยู่ ถ้าระเบียบใหม่ออกแล้วกลับไปอยู่บ้านเลยมันก็ดูไม่สมจริง แต่ตนก็คิดว่าน่าจะไปลงพื้นที่ รพ.ตำรวจได้ แต่คงไม่ได้เข้าไปดูภายในห้องพักของนายทักษิณ แต่จะเข้าไปดูแผนผังของชั้น 14 เป็นอย่างไร มีใครรักษาตัวอย่างบ้าง เนื่องจากการข่าวอ้างว่าในวันที่ส่งตัวนายทักษิณไปโรงพยาบาลตำรวจเพราะ ห้องไอซียูเต็ม และตึกที่พักรักษาตัวขณะนี้มีเครื่องหมายเครื่องมือพร้อมเทียบเท่ากับห้องไอซียู เพราะตอนที่นายทักษิณถูกส่งตัวอาการหนักมาก จึงต้องส่งไปที่ชั้น 14 



#ทักษิณป่วย



#กรมราชทัณฑ์



#โรงพยาบาลตำรวจ



 

ข่าวทั้งหมด

X