เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 35.79/80 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเปิดตลาดที่ระดับ 35.75 บาท/ดอลลาร์ รับข่าวตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืนนี้ โดยตัวเลขเงินเฟ้อ ออกมาตามคาดการณ์ และยังห่างจากตัวเลขเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พอสมควร ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดน่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งช่วงกลางปี 67 จากที่ตอนแรกมีบางส่วนมองว่าจะปรับอย่างเร็วช่วงเดือน มี.ค. 67
สำหรับคืนนี้ ตลาดรอดูผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งตลาดคาดว่าเฟด จะคงดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ แต่ที่ตลาดรอจับตาคือแถลงการณ์ว่า หลังจากที่คงอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้แล้ว ในปี 67 จะมีการปรับลด อัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงไหน และเงินเฟ้อไปถึงจุดที่เฟดมองว่าสามารถยับยั้งได้แล้วหรือไม่ปัจจัยสำคัญ
ดัชนี SET ปิดที่ 1,357.97 จุด ลดลง 15.95 จุด มูลค่าซื้อขาย 37,984.99 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 502.69 ลบ.ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง มองว่ามาจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับต่ำกว่าคาด ทำให้เงินที่เคยไหลเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทยเมื่อปี 65 เกือบ 2 แสนล้านบาทกลับข้างเป็นชะลอการเข้าลงทุน ตลอดจนขายสุทธิออกไป ถือเป็นการปรับสถานะของนักลงทุนต่างชาติในปีนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากตลาดหุ้นไทยลงไปมากแล้ว จึงเชื่อว่าจากนี้น่าจะปรับตัวขึ้นมาได้ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเหลือขายสุทธิหุ้นไทยได้อีกไม่มาก โดยวันพรุ่งนี้ตลาดฯ มีโอกาสรีบาวด์ หากเฟดปรับลด Dot Plot ปี 67 ลงตามคาด และยังคาดหวังแรงหนุนจากการเข้าซื้อของกองทุน TESG
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่คณะผู้นำจีนไม่ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่สำหรับปีหน้า ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 16,228.75 จุด ลดลง 145.75 จุด
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ (13 ธ.ค.) เป็นวันที่สามติดต่อกัน ขานรับข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) ในไตรมาส 4/2566 ที่เปิดเผยโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ว่า ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 12 จากระดับ 9 ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันสามไตรมาส และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 32,926.35 จุด เพิ่มขึ้น 82.65 จุด
#หุ้นไทย
#ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ