นักลงทุน จับตาการเดินทางเยือนตะวันออกกลางของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
ทำเนียบเครมลิน ระบุว่า เรื่องของพลังงานจะเป็นประเด็นหลักในการหารือระหว่างประธานาธิบดีปูตินกับผู้นำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และซาอุดีอาระเบีย หลังจากที่ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มโอเปกพลัส ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการกำหนดโควตาการผลิตน้ำมันอย่างเป็นทางการสำหรับไตรมาสแรกของปี 67 โดยจะให้เป็นการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของประเทศสมาชิกคิดเป็นจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน มติของโอเปกพลัสดังกล่าว สร้างความไม่มั่นใจว่าสมาชิกโอเปกพลัสจะปรับลดกำลังการผลิตตามสัญญาหรือไม่ และจะมีการตรวจสอบอย่างไร
ส่วนประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับตลาดน้ำมัน คือ นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจจีนที่ซบเซาจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน หลังจากที่มูดีส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีน จาก "มีเสถียรภาพ" ลงสู่ "เชิงลบ" จากตัวเลขหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่ นักวิเคราะห์ คาดว่า ลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่ นักวิเคราะห์ คาดว่า เพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล
ข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ ทำให้ราคาน้ำมัน ปิดตลาดวันพุธ 6 ธ.ค.66 ขยับลง แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.66
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนม.ค.67 ลดลง 2.94 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนก.พ.67 ลดลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
#น้ำมันโลกลดลง
แฟ้มภาพ