ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า มีแนวโน้มสูงที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2024 จะเป็นศึก rematch ของการเลือกตั้งในปี 2020 ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต กับ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน แต่ปรากฏว่า นายไบเดน กล่าวในที่ประชุมผู้บริจาคเงินสำหรับรณรงค์หาเสียงสำหรับพรรคเดโมแครต บนเวทีชานเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์เมื่อวานนี้ ว่า เขาไม่มั่นใจว่าจะลงเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในปี 2024 หรือไม่ หากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ลงเลือกตั้ง (เนื่องจาก เหตุผลต่างๆเช่น ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดอาญา ทำให้นายทรัมป์ หมดสิทธิ์ลงเลือกตั้ง) แต่ถ้าในที่สุด นายทรัมป์ (ไม่ถูกตัดสิทธิ์เรื่องคุณสมบัติการลงเลือกตั้ง) กลับมาลงเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2024 พรรคเดโมแครตของเขา จะไม่ยอมให้นายทรัมป์ ชนะด็ดขาด
การแสดงความเห็นดังกล่าว สร้างความประหลาดใจสำหรับทีมรณรงค์หาเสียงและคณะที่ปรึกษาหลายคนของนายไบเดน รวมถึงสว.คริส คูนส์ จากรัฐเดลาแวร์ ในฐานะประธานร่วมของทีมรณรงค์เลือกตั้งแห่งชาติ 2024 ของนายไบเดน ขณะเดียวกัน ทีมรณรงค์หาเสียงของนายไบเดน ชี้แจงคำพูดของนายไบเดนว่า นายไบเดน ไม่ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าเขาจะวางมือทางการเมือง ทั้งย้ำจุดยืนของนายไบเดนว่า มองนายทรัมป์ว่า เป็นภัยคุกคามการปกครองระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่คล้ายกับในช่วงที่นายไบเดน ประกาศลงเลือกตั้งสมัยแรกในปี 2020
ทั้งนี้ ในการประชุมระดมทุนบริจาคสนับสนุนการหาเสียง 5 วัน ซึ่งเริ่มวันอังคาร นายไบเดน ตั้งเป้าระดมเงินบริจาคกว่า 15 ล้านดอลลาร์ ข้อมูลจากแอ็ดอิมแพ็ค(AdImpact) ระบุว่า นายไบเดนเป็นผู้นำที่อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งบโฆษณาเกี่ยวกับการณรงค์เลือกตั้งสมัยที่ 2 ทางสื่อหลักๆรวมถึงสื่อโทรทัศน์มากที่สุดในปีนี้ ใช้จ่ายกว่า 45 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นปีนี้ เทียบกับผู้นำคนก่อนๆเช่น นายทรัมป์ใช้จ่ายงบโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการณรงค์เลือกตั้ง 36.5 ล้านดอลลาร์ในปี 2019 และมากกว่าอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามาซึ่งใช้งบประมาณราว 7.3 ล้านดอลลาร์ในปี 2011
ทีมรณรงค์ของนายไบเดน หวังจะทุ่มงบก้อนใหญ่เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางสื่อส่วนใหญ่ในรัฐ ที่เป็นแบทเทิลกราวน์ สเตท (battleground state) ซึ่งคะแนนเลือกตั้งสูสีกันมาก เช่น รัฐเพนซิลเวเนีย, มิชิแกน,วิสคอนซิล,อาริโซนา,จอร์เจียและรัฐเนวาดา
#การเมืองสหรัฐ