ชีวิตเกษตรกรที่ยึดอาชีพทำนามาตั้งแต่ปี 2532 โดยใช้วิธีเกษตรธรรมชาติ ทำให้ในวันนี้ นายชัยพร พรหมพันธุ์ ได้รับพระราชทานรางวัลปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรดีเด่น ประจำปี2558 ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ นายชัยพร เล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจว่า ได้ยึดอาชีพทำการเกษตรและปลูกข้าวที่อําเภอ บางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี โดยไม่ใช่สารเคมีมาตั้งแต่ปี 2532 และเมื่อปี 2538 ยังเคยได้รับรางวัลดีเด่นแห่งชาติในเรื่องการทำนาด้วย เนื่องจากเห็นผลเสียของการใช้สารเคมีว่านอกจากจะมีราคาแพงและเป็นอันตรายแล้ว ยังทำให้ต้องลงทุนสูงอีกด้วย ดังนั้นจึงใช้วิธีระบบนิเวศตามธรรมชาติในการปลูกข้าว ใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทน ประกอบกับในปัจจุบันราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้เกษตรกรหลายพื้นที่ประสบปัญหาเรื่องราคา ขายสินค้าไม่ได้ จึงเสนอให้ใช้วิธีทางธรรมชาติ ลดต้นทุนการผลิต และทำนาเอง โดยไม่ได้แจ้งแรงงาน หรือรถเกี่ยวมาช่วย ทำให้ในแต่ละเดือนประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้จำนวนมาก จึงมีเงินทุนเพียงพอที่จะเลี้ยงครอบครัว เพราะเงินจากที่ขายข้าวนอกจากหักเป็นค่าอุปกรณ์ในการลงทุน ส่วนที่เหลือถือว่าเป็นกำไร เช่น ตอนนี้ตัวเองกับภรรยา ช่วยกัน ทำนาทั้งหมด108ไร่ เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 1ไร่ต่อตัน แต่ถ้าอย่างปีนี้น้ำน้อย แต่ก็ไม่มีผลกระทบมากเท่าไหร่ จึงทำให้ได้ผลผลิตข้าวในจำนวนที่ไม่แตกต่างจากช่วงเวลาปกติ ปีนี้มีเงินจากการขายข้าวกว่า 6แสนบาท ซึ่งหลังหักเงินลงทุนประมาณ เกือบ2แสนที่เหลือ ก็เป็นกำไร นายชัยพร กล่าวว่า ถ้าทำนาแบบจ้างคนมาทำ หรือลงทุนไปกับค่าปุ๋ย ค่ายา หรือสารเคมีต่างๆ ก็จะมีต้นทุนสูง และถ้าช่วงไหนราคาข้าวตกต่ำ ก็จะได้รับผลกระทบมากขึ้นด้วย ดังนั้นการทำนาด้วยตัวเองและลดต้นทุนการผลิตถือว่าเป็นทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้มีกำไรแต่บางทีอาจจะต้องเหนื่อยกว่าปกติ แต่ถือว่าคุ้มค่า เพราะทำให้สามารถเลี้ยงครอบครัว และส่งลูกๆเรียนจนจบปริญญาโทได้
วิรวินท์