บีบีซี รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ว่า มีผู้เสียชีวิต 4 รายและมีผู้บาดเจ็บ 42 คน หลังเกิดเหตุระเบิดในพิธีมิสซาของชาวคริสต์ซึ่งจัดขึ้นในสนามกีฬาของมหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนา (MSU)ในเมืองมาราวี ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ เช้าวันนี้(3 ธ.ค.66)
พลตำรวจจัตวา อัลลัน โนเบิลซา ตำรวจระดับสูงของเกาะมินดาเนา เปิดเผยว่า กลุ่มติดอาวุธในท้องถิ่นชื่อกลุ่ม เดาลาห์ อิสลามิยาห์-เมาตี (Daulah Islamiyah-Maute Group) อ้างอยู่เบื้องหลัง ก่อนหน้านี้ กลุ่มติดอาวุธเสียชีวิต 11 รายจากการปะทะกับทหารฟิลิปปินส์ในท้องที่ใกล้เคียงคือ เมืองดาตู ฮอฟเฟอร์ อัมปาตวน (Datu Hoffer Ampatuan)เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว บ่งชี้ว่าการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธในวันนี้ มุ่งแก้แค้นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของฟิลิปปินส์
ด้านมหาวิทยาลัย MSU ระบุในแถลงการณ์ แสดงความเสียใจกับเหตุรุนแรง พร้อมประณามการเกิดเหตุรุนแรงดังกล่าวว่า เป็นการก่อเหตุโดยไร้สติ และน่าสะพรึงกลัว เพิ่มเติมว่า เหตุรุนแรงในสถาบันการศึกษาเช่นนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นในสังคมที่เจริญก้าวหน้าทางอารยะธรรมดังเช่นในยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งร่วมแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชนชาวคริสต์และทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรง
รัฐบาลฟิลิปปินส์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ไปดูแลความปลอดภัยบริเวณมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งสั่งหยุดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยไปจนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง
ก่อนหน้านี้ เมืองมาราวี เคยเป็นพื้นที่ที่กองทัพฟิลิปปินส์และกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่น ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ของอิรักและซีเรีย สู้รบราว 5 เดือนในปี 2560
#ฟิลิปปินส์
#ระเบิดในพิธีมิสซา