กองกำลังป้องกันอิสราเอลหรือไอดีเอฟ เผยแพร่ใบปลิวแจ้งให้ประชาชนในบางพื้นที่ของฉนวนกาซาอพยพออกจากพื้นที่เป้าหมาย พร้อมคำแนะนำเส้นทางที่ปลอดภัย และสถานที่ที่พวกเขาควรเดินทางไป
สำหรับพื้นที่ที่ถูกระบุว่า เป็นพื้นที่อันตรายคือ จาบาลิยา และซูไจยา ที่ประชาชนจะต้องเร่งอพยพในทันที ส่วนพื้นที่ทางใต้ที่ถูกระบุว่าเป็นพื้นที่อันตรายมีหลายแห่งคือ บานี ซูฮาอิลา ใกล้กับข่านยูนิส ที่ไอดีเอฟแนะนำให้ชาวปาเลสไตน์ย้ายไปยังศูนย์พักพิงในเมืองราฟาห์บริเวณชายแดนติดกับอียิปต์
ไอดีเอฟ รายงานด้วยว่า นับตั้งแต่พ้นกำหนดหยุดยิงในช่วงเช้าวันศุกร์ (1 ธ.ค.66) มีการโจมตีเป้าหมายมากกว่า 400 แห่งในฉนวนกาซา เป้าหมายส่วนใหญ่อยู่ในข่านยูนิส ซึ่งในช่วงแรกที่อิสราเอลออกคำสั่งให้ผู้คนทางตอนเหนือของฉนวนกาซาอพยพไปทางทิศใต้ ชาวกาซาหลายแสนคนได้เข้าไปพักอาศัยอยู่ที่เมืองข่านยูนิส ส่วนใหญ่อยู่ในค่ายพักพิงของสหประชาชาติ
แต่เมื่อกองทัพอิสราเอลกลับมาโจมตีฉนวนกาซาอีกครั้ง ก็กลับมาระดมโจมตีเมืองข่านยูนิส และอีกหลายพื้นที่ทางใต้ ทำให้ชาวปาเลสไตน์เหล่านี้ ต้องอพยพกลับไปทางเหนืออีกครั้ง
เมื่อคืนที่ผ่านมา ข่านยูนิส ถูกโจมตีรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ความขัดแย้งรอบใหม่เริ่มขึ้น อาคารหลายแห่ง รวมถึงสำนักงานใหญ่กลุ่มฮามาสพังทลาย ถนนสายหลักเสียหาย
สหประชาชาติ เตือนว่า มีวิกฤตด้านมนุษยธรรมเกิดขึ้นทั่วทั้งฉนวนกาซา โรงพยาบาลทุกแห่งได้รับความเสียหายจากการโจมตี ขณะที่มีผู้ป่วยและผู้พลัดถิ่นเต็มโรงพยาบาล นอกจากนี้ขบวนรถส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ยังไม่สามารถเดินทางเข้าไปในพื้นที่ได้ เช่นเดียวกับสภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ ที่ยอมรับว่าไม่มีความชัดเจนว่าจะสามารถส่งความช่วยเหลือใดๆ ให้กับชาวปาเลสไตน์ได้ ผู้พลัดถิ่นจากข่านยูนิส ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ไม่มีน้ำ อาหาร ผ้าห่ม และเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับฤดูหนาว
..
#อิสราเอล
#ฉนวนกาซา