+++สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ว่า พ.ต.เดวิด อีสเบิร์น โฆษกกองบัญชาการสหรัฐฯ แห่งภูมิภาคแปซิฟิกแถลงว่าเฮลิคอปเตอร์แบบยูเอช-1ฮิวอี้ของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ เกิดสูญหายไปในประเทศเนปาลระหว่างปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวชาวเนปาลใกล้กับหมู่บ้านชาริกอตหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากแผ่นดินไหวขนาด 7.3 กองทัพสหรัฐฯ รับทราบรายงานการสูญหายของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้แล้วทราบว่ามีลูกเรือ 8คนบนเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวแยกเป็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ 6คนและทหารเนปาล2คนขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม กระทรวงมหาดไทยของเนปาลแจ้งตัวเลขผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในประเทศเนปาลว่ามีทั้งหมด66ศพแล้ว แยกเป็น48ศพในเนปาล 17ศพ ในอินเดีย และอีก 1ศพในทิเบตจีน ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นมีจำนวนกว่า1,100คน ในส่วนของซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 50 ศพ บาดเจ็บ 1,261 คน
+++ แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นล่าสุด รุนแรง 7.3 เมื่อเวลา 12.35 น. เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 14.05 น. ตามเวลาในประเทศไทย มีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินราว 15 กิโลเมตร ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันออกราว 76 กิโลเมตร ซึ่งเป็นบริเวณใกล้เคียงกับแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อวันที่ 25 เม.ย. และห่างจากเมืองจางมู่ ในเขตปกครองตนเองทิเบต ทางตะวันตกของจีน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเนปาลเพียง 22 กิโลเมตรเท่านั้น สามารถรับรู้ได้ไกลถึงกรุงกาฐมาณฑุ และกรุงนิวเดลี อินเดีย สร้างความตื่นตระหนกประชาชนพากันวิ่งออกมารวมตัวกันนอกอาคาร
+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงธากา ประเทศบังคลาเทศ ว่า นายดิคสัน เชาธรี ผู้บัญชาการหน่วยเรือยามชายฝั่งบังคลาเทศ เปิดเผยว่า หน่วยเรือยามชายฝั่งพร้อมด้วยกองทัพเรือบังคลาเทศ จับกุมเรือประมงลำหนึ่งที่ลอยลำอยู่กลางทะเลทางตอนใต้ของบังคลาเทศใกล้กับเกาะเซนต์ มาร์ติน ติดกับชายแดนเมียนมาร์ จากการตรวจสอบพบผู้อพยพผิดกฎหมายชาวบังคลาเทศอยู่บนเรือทั้งหมด116 คน โดยต้องการไปขึ้นฝั่งที่มาเลเซีย เจ้าหน้าที่คาดว่าลูกเรือน่าจะทิ้งเรือและลงเรืออีกลำหลบหนีไปหลังถูกเรือลาดตระเวนไล่ตาม โดยเรือมีลักษณะคล้ายกับเรือประมงของเมียนมาร์ รวมถึงลูกเรือน่าจะเป็นชาวเมียนมาร์เช่นกัน
+++ด้านนายตาน ก๊ก กวี ผู้บัญชาการหน่วยนาวิกโยธินเขตเหนือของมาเลเซียแถลงว่า กองทัพเรือจะส่งเรือตรวจการณ์ทั้งหมด8ลำ ออกลาดตระเวนบริเวณน่านน้ำโดยรอบของเกาะลังกาวีตลอด24ชม. หลังตั้งแต่วันเสาร์ที่9พ.ค.พบเรือผู้อพยพจำนวนมากแล่นมาขึ้นฝั่งที่มาเลเซีย ทั้งนี้ทางการมาเลเซียจะไม่อนุญาตให้เรือต่างชาติแล่นเข้ามาในน่านน้ำของตัวเอง โดยกองทัพเรือจะช่วยจัดหาเสบียงให้เรือดังกล่าวก่อนส่งเรือออกจากน่านน้ำไป โดยจะเข้าช่วยเหลือเฉพาะเมื่อเรือกำลังอับปางเท่านั้น ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่แล้วมีเรือผู้อพยพมาขึ้นฝั่งที่เกาะลังกาวีของมาเลเซียแล้วกว่า1,000คน ขณะที่อีก600คน ได้ไปขึ้นฝั่งที่จังหวัดอาเจะห์ทางตะวันตกของอินโดนีเซีย
+++โฆษกกองทัพแห่งชาติของอินโดนีเซีย กล่าวว่า กองทัพอินโดนีเซียจะอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวโรฮิงญาในการแล่นเรือผ่านช่องแคบมะละกา หลังการติดค้างอยู่ในจังหวัดอาเจะห์เหนือเมื่อวันอาทิตย์เนื่องจากเรือหมดเชื้อเพลิง ระบุว่าผู้อพยพส่วนใหญ่จากทั้งหมด 581 คนไม่ประสงค์จะพักอยู่ในอินโดนีเซีย แต่ต้องการจะเดินทางต่อไปยังมาเลเซียหรือออสเตรเลีย เพื่อหางานทำ เขากล่าวว่าการอำนวยความสะดวกที่อินโดนีเซียจัดเตรียมแก่ผู้อพยพ รวมถึงเชื้อเพลิง อาหาร น้ำดื่มและยารักษาโรค
+++ความรุนแรงในซีเรีย กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษแถลงว่าเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพซีเรียได้ปฏิบัติการโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดถังน้ำมันถล่มเป้าหมายย่านที่อยู่อาศัยในเมืองอเลปโปทางเหนือของซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย20ศพ บาดเจ็บ30คน ซึ่งในเมืองอเลปโปแบ่งเป็นเขตยึดครองของทั้งฝ่ายกบฏและฝ่ายรัฐบาลจุดที่ถูกโจมตีอยู่ใกล้กับสถานีรถโดยสาร
+++ที่กรุงซานา ประเทศเยเมน เจ้าหน้าที่การแพทย์ของเยเมน เปิดเผยว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของเครื่องบินรบกองทัพซาอุดีอาระเบียโดยมีเป้าหมายคลังแสงซึ่งตั้งอยู่ชานกรุงซานาทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย69ศพและบาดเจ็บอีก250คน ผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ส่วนชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่าจุดที่เกิดระเบิดเป็นค่ายทหารของกองทัพเยเมนบนเขาโนกุม ชานเมืองฝั่งตะวันออกของกรุงซานา การโจมตีของกองทัพซาอุดีอาระเบียเปิดฉากมาตั้งแต่ช่วงกลางคืนจนถึงราวเที่ยงของวันอังคารที่12พ.ค.แรงระเบิดจากการโจมตีส่งผลให้เศษชิ้นส่วนกระจายปลิวว่อนไปทั่วย่านที่อยู่อาศัยแถบเชิงเขาโนกุม การโจมตีของกองทัพพันธมิตรซึ่งมีซาอุดีอาระเบียเป็นแกนนำเพื่อขับไล่กลุ่มกบฏฮูตีเป้าหมายฐานที่มั่นฝ่ายกบฏในกรุงซานา
+++ความกังวลว่ายอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้มาก เนื่องจากรอยเตอร์อ้างรายงานข่าวของสำนักข่าวซาบาที่สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคนหนึ่งระบุเหตุโจมตีทางอากาศของพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียต่อฐานเก็บจรวดของกบฏในกรุงซานา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 90 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 300 คน
+++ประธานาธิบดีราอูล คาสโตรแห่งคิวบา แถลงว่าการหารือระหว่างสหรัฐฯ และคิวบา จะนำมาซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์เพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับคิวบาซึ่งทั้งหมดนั้นกำลังดำเนินไปด้วยดี อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้ต้องดำเนินการล่วงหน้าหลังจากครบระยะเวลา 45วัน ในวันที่29พ.ค.นี้เพื่อให้สภาคองเกรสของสหรัฐฯมีเวลาสำหรับการพิจารณาหากต้องการคัดค้านแผนการของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐในอันที่จะถอดชื่อของคิวบาออกจากบัญชีรายชื่อประเทศผู้สนับสนุนลัทธิก่อการร้าย ประธานาธิบดีคาสโตรกล่าวว่าใน 45วันซึ่งจะครบกำหนดวันที่29พ.ค.นี้ข้อกล่าวหาว่าคิวบาสนับสนุนการก่อการร้ายก็จะถูกยกเลิกไป จากนั้นคิวบากับสหรัฐฯก็จะทำการแลกเปลี่ยนทูตระหว่างกันได้ทันที +++ประธานาธิบดีโอบามา แจ้งต่อสภาคองเกรสเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะถอดชื่อคิวบาออกจากบัญชีรายชื่อประเทศผู้สนับสนุนลัทธิก่อการร้ายซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการเจรจากระชับสัมพันธ์ทวิภาคีซึ่งทางสภาคองเกรสของสหรัฐฯ มีเวลา45วันที่จะคัดค้านโดยเส้นตายครบกำหนดคือวันที่29พ.ค.นี้
+++นายกาเบรียล ซาเคลลาริดิส โฆษกรัฐบาลกรีซ กล่าวว่า รัฐบาลกรีซ จะใช้เงินสำรองที่ฝากไว้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)เพื่อชำระหนี้ 750 ล้านยูโรให้แก่ไอเอ็มเอฟในวันจันทร์หน้า ก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันว่ารัฐบาลกรีซเริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงิน หลายคนสงสัยว่า รัฐบาลกรีซภายใต้การนำของพรรคซ้ายจัด จะชำระหนี้ให้แก่ไอเอ็มเอฟ หรือเลือกที่จะเก็บเงินไว้จ่ายเงินเดือนและบำเหน็จบำนาญของข้าราชการในช่วงปลายเดือนนี้ กรีซสามารถระดมเงิน 600 ล้านยูโรจากองค์กรปกครองท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจของกรีซ เพื่อช่วยให้สามารถแก้ไขวิกฤติหนี้ครั้งนี้ไปพลางก่อน ก่อนหน้านั้น กรีซได้ร้องขอให้องค์กรปกครองท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจโอนเงินสำรองที่ไม่ได้ใช้ไปให้แก่ธนาคารกลางแห่งกรีซ เป็นการกู้ยืมระยะสั้น ก่อนหน้านี้นายยานิส วารูเฟกิส รัฐมนตรีคลังของกรีซ กล่าวว่าสถานการณ์ทางการเงินของกรีซขณะนี้ถือว่าเร่งด่วนและอาจจะเกิดวิกฤติในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ถ้าหากว่าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก้อนใหม่จากสหภาพยุโรป(อียู)และไอเอ็มเอฟ ทั้งนี้ เงินกู้ที่เจ้าหนี้ระหว่างประเทศ คือ สหภาพยุโรป (อียู) และไอเอ็มเอฟ จะปล่อยให้กรีซเป็นจำนวน 7,200 ล้านยูโร เป็นงวดสุดท้ายของยอดเงินกู้ทั้งก้อนที่ให้แก่กรีซ 2 แสน 40,000 ล้านยูโร ซึ่งกรีซมีเวลาจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.
+++มีรายงานระบุจากธนาคารกลางกรีซ เปิดเผยว่า กรีซจำเป็นต้องใช้เงินจากบัญชีฉุกเฉินไปชำระคืนหนี้ไอเอ็มเอฟ จำนวน 750 ล้านยูโร หรือราว 28,500 ล้านบาท ที่ครบกำหนดในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เป็นความคิดของนายยานนิส สตูร์นาราส ผู้ว่าการธนาคารกลางเพื่อผ่าทางตัน
+++นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงเมืองโซชิสถานตากอากาศรัสเซียแล้ว นายแคร์รีจะพบกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียและเข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในลำดับต่อไป นับเป็นการเยือนของเจ้าหน้าที่ในระดับสูงสุดของสหรัฐที่มาเยือนรัสเซียนับตั้งแต่ที่นายแคร์รีเดินทางเยือนกรุงมอสโกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2556เพื่อผลักดันให้ประธานาธิบดีปูติน ทำตามข้อหยุดยิงในยูเครน นอกจากนี้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังต้องการหารือความขัดแย้งในซีเรีย เยเมน และลิเบีย รวมถึงสรุปการหารือให้กับประธานาธิบดีปูตินเกี่ยวกับการเจรจาทำข้อตกลงประวัติศาสตร์ในโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ขณะที่ประเด็นเรื่องมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจของรัสเซีย โดยมหาอำนาจตะวันตกที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำ ไม่ได้อยู่ในวาระการหารือครั้งนี้