สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนและซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมรองนายกรัฐมนตรีเหอ ลี่เฟอ และนายไช่ ฉี หนึ่งในคณะกรรมการในกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ไปเยือนนครเซี่ยงไฮ้ เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่รัฐบาลจีนเตรียมจัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดการเงินของประเทศ หลังเริ่มเข้าสู่ภาวะชะงักงัน
ทั้งนี้ นายสีได้เยือนนครเซี่ยงไฮ้ 2 วันคือ วันอังคารและวันพุธ รวมถึงเยี่ยมชม ตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ล่วงหน้าของนครเซี่ยงไฮ้(Shanghai Futures Exchange) เยี่ยมชมนิทรรศการที่ จางเจียง ไฮ-เทค ปาร์ค และโครงการเคหะชุมชนของรัฐบาล
การเยือนนครเซี่ยงไฮ้ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 มีขึ้น ขณะที่ความมั่นใจของภาคธุรกิจเอกชนในจีนเริ่มลดลง บริษัทต่างชาติหลายแห่งเริ่มย้ายโรงงานไปต่างแดน ในปัจจุบัน ประเทศจีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลกเริ่มเข้าสู่ภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจ หลังขยายตัวอย่างรวดเร็วมาหลายสิบปี ตอนนี้มีปัญหาหลายอย่าง เช่น วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ การว่างงานที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มคนหนุ่มสาว ปัญหาหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น และประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้น การเข้มงวดในเรื่องการประกอบธุรกิจในประเทศจีน และความตึงเครียดกับชาติตะวันตก รวมถึงสหรัฐฯสร้างความหวั่นวิตกให้กับนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้มาตรชี้วัดการลงทุนโดยตรงต่างชาติในประเทศจีน อยู่ในแดนลบเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2541
ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดที่รัฐบาลจีนเผยแพร่ในวันนี้ แสดงให้เห็นว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโรงงานผลิตอุตสาหกรรมของจีน(PMI)ลดมาอยู่ที่ 49.4 ในเดือนพฤศจิกายน จาก 95.5 ในเดือนตุลาคม ซึ่งบ่งชี้ถึงการอ่อนแออย่างต่อเนื่อง ของผลผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมของจีน เป็นผลพวงจากอุปสงค์ที่อ่อนแอทั้งในประเทศและทั่วโลก
#ผู้นำจีน
#เยือนเซี่ยงไฮ้