การดูแลด้านเอกสารให้กับคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาสรวม 17 คน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายกิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟว่า อัครราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายแรงงานฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายแรงงานฯ ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล Shamir Medical Center เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมประสานงานและอำนวยความสะดวกกับเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมอิสราเอลในการจัดทำเอกสารเพื่อขอรับเงินชดเชยกรณีเป็นตัวประกันจากอิสราเอลให้กับแรงงานไทย รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการเป็นล่ามให้กับทีมแพทย์พยาบาลที่ให้การดูแลรักษาพยาบาลสุขภาพกายและสภาพจิตใจ พร้อมทั้งประสานนายจ้างและเพื่อนร่วมงาน เพื่อติดตามทรัพย์สินและเงินสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแรงงานอิสราเอลให้กับชาวไทยดังกล่าวอีกด้วย
ส่วนการเดินทางไปรับแรงงานไทยกลับประเทศ กระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ร่วมเดินทางไปกับคณะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) โดยจะเดินทางกลับมาพร้อมกับแรงงานไทยชุดแรกที่ได้รับการปล่อยตัวถึงประเทศไทยในวันที่ 30 พ.ย.66 ด้วยสายการบินอิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY 081 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 12.05 น.
ทันทีที่มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กระทรวงแรงงาน จะจัดเจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะให้บริการคำแนะนำเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ โดยแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ จะได้รับเงินเยียวยาจากการเป็นสมาชิกกองทุนฯ รายละ 15,000 บาท และแรงงานไทยที่เคยเป็นผู้ประกันตนกับประกันสังคมก่อนที่จะเดินทางไปทำงานในอิสราเอลก็จะได้รับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังได้ให้แรงงานจังหวัดนำทีมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดภูมิลำเนาของแรงงานไทยลงพื้นที่ไปพูดคุยกับญาติพี่น้องแรงงานไทยทุกราย เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจและอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น ต้องการหางานใหม่ทำ หรือฝึกอาชีพ ก็จะอำนวยความสะดวกตามความประสงค์ด้วยเช่นกัน
#ช่วยตัวประกันไทย
#รับเงินชดเชย
CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ กระทรวงแรงงาน