นโยบายการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ในวันพรุ่งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมแถลงครั้งใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 3/66 พบว่า หนี้ครัวเรือนในไตรมาสที่ 2 ขยายตัวร้อยละ 3.6 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ ร้อยละ90.6 คงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว
หากพิจารณาหนี้ครัวเรือนรายวัตถุประสงค์ พบว่า สินเชื่อเกือบทุกประเภทขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยการขยายตัว(contribution of growth) ของหนี้สินครัวเรือนมีที่มาจากหนี้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์และหนี้เพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเป็นหลัก เนื่องจากเป็นหนี้ที่มีสัดส่วนมากเป็นสองอันดับแรกของหนี้สินครัวเรือนทั้งหมด
ด้านสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น ขยายตัวร้อยละ 5.5 ปรับเพิ่มจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 5.4 สอดคล้องกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากการใช้จ่ายในสินค้าไม่คงทน ที่เร่งตัวสูงขึ้น ขณะที่ สินเชื่อบัตรเครดิตขยายตัว ร้อยละ 2.5 ชะลอลงจาก ร้อยละ 5.7 ส่วนสินเชื่อยานยนต์ขยายตัวร้อยละ 1.0 จากการปรับเงื่อนไขการปล่อยกู้ที่เข้มงวดขึ้น
ลูกหนี้ SMEs และผู้ประกอบการช่วงโควิด-19 ที่ยังเป็นหนี้ต่อเนื่อง ต้องดูว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจประเภทใด โดยหนี้เสียส่วนใหญ่อาจยังไม่สามารถกลับมาสร้างรายได้ได้อย่างเต็มที่มากนัก เนื่องจากโควิดประสบปัญหาเยอะ และนาน ต้องไล่ดูว่ารหัส 21 เป็นธุรกิจประเภทใดบ้าง ถ้าเป็นธุรกิจท่องเที่ยว ตอนนี้น่าจะปรับตัวขึ้นมาได้บ้างแล้ว การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้พยายามดึงลูกหนี้นอกระบบกลับมาในระบบและจัดการหนี้นอกระบบต่างๆ
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างเตรียมสรุปมาตรการ เพื่อสนับสนุนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศตามนโยบาย
โดยแนวทางของมาตรการในการร่วมแก้ไขปัญหา
สำหรับแนวทางมาตรการในการร่วมแก้ไขปัญหาหนี้ในระบบนั้น กระทรวงการคลังจะขอความร่วมมือแบงก์รัฐ และแบงก์พาณิชย์ ในการเข้าไปช่วยลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ เบื้องต้น จะต้องประเมินว่า สถานะของลูกหนี้ในปัจจุบัน มีปัญหาด้านใด ทั้งมูลหนี้ และอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากพบว่าปัญหาใดเป็นสิ่งที่ทำให้การแก้ไขหนี้ได้ล่าช้า จะเข้าไปแก้ในจุดนั้น พร้อมดึงผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย อาทิ นาโนไฟแนนซ์ และพิโกไฟแนนซ์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ให้เปิดช่องทางหรือผ่อนปรนการเข้าถึงสินเชื่อให้แก่ประชาชนรายย่อยให้มากขึ้น เพื่อเป็นตัวช่วยอีกช่องทาง
#นายกแถลง
#แก้หนี้ครัวเรือน