ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างแถลงการณ์จากทำเนียบขาวของสหรัฐฯว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล-ธานี (Sheikh Tamim Bin Hamad Al-Thani) เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ และนายกรัฐมนตรี ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล ธานี(Sheikh Mohammed bin Abdulrahman al Thani)แห่งกาตาร์ในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยเรื่องข้อพิพาทระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส เพื่อหารือเรื่องอุปสรรคต่างๆในการการทำตามข้อตกลงการปล่อยตัวประกัน และแนวทางการคลี่คลายปัญหาต่างๆโดยเร็ว ตลอดถึงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนในเขตฉนวนกาซา
แถลงการณ์ ระบุว่า ผู้นำทั้งสองตกลงจะติดต่อสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ ไปจนกว่าทุกฝ่ายจะทำปฏิบัติตามรายละเอียดของข้อตกลงโดยครบถ้วนและเสร็จสมบูรณ์ ซีเอ็นเอ็นระบุว่า ข้อตกลงการปล่อยตัวประกันครั้งนี้ เป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงถึงบทบาทที่โดดเด่นของกาตาร์ ในการติดต่อพูดคุยกับทุกฝ่าย ที่เป็นคู่ปรปักษ์กันในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งนี้ กาตาร์ ซึ่งร่ำรวยด้วยทรัพยากรน้ำมัน ยังเป็นที่ตั้งสำนักงานของนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส อีกทั้งเป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯในตะวันออกกลาง
ก่อนหน้านี้ นายโอซามา ฮัมดัน โฆษกกลุ่มฮามาส ได้พูดถึงปัญหาส่วนหนึ่งเช่น กลุ่มฮามาสทักท้วงว่า ที่ผ่านมา มีรถบรรทุกจากองค์กรการกุศลเพียง 65 คัน ขนสิ่งของบรรเทาทุกข์จากชายแดนราฟาห์ของอียิปต์ เข้าไปยังพื้นที่ตอนเหนือของเขตฉนวนกาซา ซึ่งต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนรถบรรทุกทั้งหมด 340 คัน ตามที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก พร้อมทักท้วงกรณีอิสราเอลเลือกปล่อยตัวเฉพาะนักโทษและผู้ต้องขังหญิงและเด็กชาวปาเลสไตน์ แทนที่จะปล่อยตัวนักโทษชายปาเลสไตน์อื่นๆเป็นการทั่วไปด้วย แต่กลุ่มฮามาสยังคงให้คำมั่นจะทำตามข้อตกลงการปล่อยนักโทษต่อไป ตราบเท่าที่อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษและผู้ต้องขังปาเลสไตน์ ตามข้อตกลง
#สหรัฐ
#ผู้ไกล่เกลี่ย