*นายกฯย้ำอยากเลือกตั้งอย่าสร้างความขัดแย้ง ไม่กังวล ทักษิณรับเชิญพูดที่เกาหลีใต้ *

12 พฤษภาคม 2558, 15:18น.


การเสนอความคิดเห็นในร่างรัฐธรรมนูญ  พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช.เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ไม่ต้องส่งข้อคิดเห็น เพราะเป็นแม่น้ำต้นสายของแม่น้ำทั้งสี่ ส่วนครม.ก็จะรวบรวมส่งข้อคิดเห็นให้กับคณะกรรมาธิการยกร่างฯ และยืนยันว่าไม่รู้สึกกดดันกับร่างรัฐธรรมนูญ โดยโรดแมพสุดท้ายของตัวเองก็อยู่ที่การเลือกตั้งและการผ่านร่างรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ขอให้มองเป็นขั้นตอนตามโรดแมพให้เปรียบเสมือนการขับรถผ่านแยกต่างๆว่าควรจะเลี้ยวไปทางใด แต่หากเจอปัญหารัฐธรรมนูญไม่ผ่านก็เปรียบเสมือนการถูกปิดถนนที่ต้องจัดสรรคณะทำงานขึ้นมาใหม่แทนคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและสภาปฎิรูปแห่งชาติ พร้อมฝากไปถึงผู้ที่ยังสร้างความขัดแย้งว่าถ้าอยากเลือกตั้งก็อย่าสร้างความขัดแย้ง หากหลังการเลือกตั้งไปแล้วจะเป็นอย่างไร  ก็คงช่วยเหลือไม่ได้แล้ว  ส่วนตัวมาเป็นผู้วางรากฐานให้ประเทศเท่านั้นและอยากเห็นประเทศมีความสงบเรียบร้อยเมื่อตัวเองออกจากตำแหน่งไป นายกฯยังระบุด้วยว่าได้คุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่พบว่ามีกำนันผู้ใหญ่บ้านร้องเรียนถึงมาตรา285 ในรัฐธรรมนูญซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำได้แต่คงเป็นข้อคิดเห็นที่กระทรวงมหาดไทยจะไปรวบรวมไว้



ส่วนความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับเชิญไปปาฐกถาที่เกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้กังวล แต่คิดว่ากังวลเรื่องอนาคตประเทศเสียมากกว่าพร้อมเชื่อว่าคงไม่ใช่การใช้อำนาจของประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศต่างๆมากดดันไทยหรือรัฐบาล ส่วนสาเหตุที่อดีตนายกฯยังไปกล่าวปาฐกถาได้ ก็เพราะสมาคมนักข่าวเกาหลีใต้เป็นคนเชิญไป พร้อมระบุว่าสื่อมวลชนก็เป็นผู้สร้างความวุ่นวายนี้ให้กับประเทศต่างๆโดยตลอดและเชื่อว่าการไปปาฐกถาของอดีตนายกฯคงไม่เป็นการเชื่อมโยงใดๆกับการขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณที่อยู่ในช่วงเดียวกัน และระบุว่า คงมีคนไปฟังพ.ต.ท. ทักษิณอยู่แล้วแต่เชื่อว่าผู้ที่ไปฟังจะรู้เองว่าสิ่งใดผิดสิ่งใดถูก ซึ่งทุกวันนี้ประเทศต่างๆก็ยังให้ความสนใจและพยายามทำให้ทุกประเทศยอมรับ



สำหรับการร้องเรียนปัญหาโรงพยาบาลเอกชนเรียกค่ารักษาผู้ป่วยเกินเหตุนั้น นายกฯก็ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขไปดูแล้ว โดยระบุว่าโรงพยาบาลเอกชนเป็นทางเลือก ซี่งตัวเองก็อยากให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการรักษาพยาบาลที่สร้างมูลค่าทางตัวเลขได้อยู่หลายล้านบาทต่อปี ซี่งการมีแพทย์และอุปกรณ์ทันสมัยเป็นจุดดึงดูดให้ชาวต่างชาติมารักษาพยาบาลในไทย นายกฯยังกล่าวถึงการจัดงานรำลึกครบรอบเหตุพฤษภาทมิฬ 2535 ด้วยว่าคงจะไม่ไปร่วมงาน เพราะมิใช่นักการเมืองพร้อมแซวว่าหากไปงานตัวเองอาจถูกผู้ที่ไม่พอใจดักตีเอาได้ ซึ่งรัฐบาลก็ได้จัดตัวแทนไปร่วมในพิธีแล้ว

ข่าวทั้งหมด

X