องค์กรด้านผู้อพยพเรียกร้องอาเซียนร่วมมือแก้ไขปัญหาผู้อพยพ

12 พฤษภาคม 2558, 11:36น.


นายเจฟฟ์ ลาโบวิตซ์ หัวหน้าคณะทำงานขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือ ไอโอเอ็ม ประจำภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลไทยเดินหน้าปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ส่งผลให้นายหน้าของขบวนการค้ามนุษย์ จากเมียนมา และ บังคลาเทศละทิ้งผู้อพยพไว้ในเรือ โดยพบเรือมนุษย์หลายลำที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งไทยที่คาดว่าจะมีผู้อพยพมากถึง 8,000 คน แต่ในช่วง 2 วันมานี้ยังมีผู้อพยพมากกว่า 2,000 คนที่เดินทางทางเรือผ่านมาถึงมาเลเซียหรืออินโดนีเซีย โดยไม่แวะพักที่ประเทศไทย เหมือนที่ผ่านมา



นายลาโบวิตซ์ เปิดเผยว่า การกวาดล้างจับกุมอย่างเข้มงวดมีขึ้นหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อน มีการแจ้งพบค่ายพักของผู้อพยพหลายแห่งทางใต้ของไทย ซึ่งเป็นจุดพักการเดินทางต่อไปยังมาเลเซีย และทำให้ขบวนการค้ามนุษย์เปลี่ยนจากการพาเดินเท้า ไปเป็นการเดินทางทางเรือตรงไปยังเป้าหมาย แต่ส่วนใหญ่ยังใช้วิธีเดิม และทำให้มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นเจตนาทิ้งผู้อพยพให้เจ้าหน้าที่ทางการมาควบคุมตัวไป หรือ อาจรอคอยเรือลำอื่นมารับผู้อพยพ



ไอโอเอ็ม ระบุว่า ชาวโรฮีนจาที่หลบหนีสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา มักตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ที่ส่วนใหญ่จะพาผู้อพยพเดินทางทางเรือและมาขึ้นฝั่งที่ประเทศไทย เพื่อพาเดินเท้าต่อไปยังมาเลเซีย แต่ก็มักจะถูกควบคุมตัวไว้เรียกค่าไถ่จนกว่าญาติจะส่งเงินมาให้ พวกเขาจึงจะสามารถเดินทางต่อไปถึงเป้าหมายได้



เมื่อวานนี้ ทางการมาเลเซีย เปิดเผยว่ามีชาวบังคลาเทศและโรฮีนจา จำนวน 1,018 คนที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่เกาะลังกาวี แต่มาเลเซียเห็นว่า ผู้อพยพเหล่านี้ถูกขบวนการค้ามนุษย์ละทิ้งไว้ และเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคือประเทศไทย ขณะที่อินโดนีเซียช่วยผู้อพยพเกือบ 600 คนนอกชายฝั่งอาเจะห์เมื่อวันอาทิตย์และอีกมากกว่า 400 คนในวันจันทร์



ไอโอเอ็ม ยังออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียนร่วมกันแก้ไขปัญหาผู้อพยพ ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ก็แสดงความเป็นกังวลเช่นกัน โดยเฉพาะการที่อินโดนีเซีย ผลักดันเรือผู้อพยพชาวโรฮีนจาออกจากช่องแคบมะละกา ต่อไปยังมาเลเซีย โดยอ้างว่า ผู้อพยพเหล่านี้ต้องการเดินทางต่อ



..

ข่าวทั้งหมด

X