ทูตไทยในอิสราเอล รับคนไทยสูญหาย 4 คน ยังหวังปล่อยตัวประกันไทย

          ผลกระทบคนไทยในอิสราเอลจากสถานการณ์อิสราเอลและกาซา  ในโอกาสเดินทางมาประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำปี 2566 น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอล กล่าวถึงความคืบหน้าว่าคนไทยถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 26 คน อิสราเอลเพิ่งยืนยันมาและไม่ใช่ถูกจับในสถานการณ์ปัจจุบัน

          สำหรับครอบครัวคนที่ถูกลักพาตัว ทางการอิสราเอลให้เงินชดเชยเช่นเดียวกัน แต่อาจใช้เวลามากกว่านิดหน่อยเนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะเพิ่งเกิดขึ้นและรัฐบาลอิสราเอลเพิ่งผ่านกฎหมายมาไม่นาน แต่ยืนยันว่าได้ค่าชดเชยแน่นอน ส่วนคนสูญหายประมาณขณะนี้มีราว 4 คนจากการแจ้งของญาติและมีการเก็บดีเอ็นเอญาติของผู้สูญหายเพื่อตรวจสอบว่าเป็นผู้เสียชีวิตหรือไม่ สำหรับยอดผู้เสียชีวิตคงเดิมที่ 39 ราย รักษาอยู่ในรพ.คงเดิม 3 คน

          ส่วนกรณีคลิปอ้างว่าเป็นตัวประกันคนไทยที่ร.พ.อัล-ชิฟาในกาซาหรือไม่ น.ส.พรรณนภา กล่าวว่า อย่างน้อยเป็นหลักฐานว่าบุคคลคนนั้นถูกลักพาตัวไปจริง คลิปดังกล่าวถ่าย เมื่อ 7 ต.ค. ซึ่งในขณะนั้นยังยืนยันว่ามีชีวิตอยู่ แต่ในวันนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม แต่ยังหวังว่าตัวประกันคนไทยยังมีชีวิตอยู่และพากลับมาประเทศไทยได้ ยืนยันว่าเรื่องเจรจาต่อรองการปล่อยตัวประกันนั้น รัฐบาลกำลังเจรจาต่อรองอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ง่าย

          โดยขณะนี้ กาชาดสากลยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป หลังจากที่กาชาดฯได้เรียกร้องให้ทางหน่วยงานกาชาดเข้าไปดูแลสวัสดิภาพของตัวประกันที่เป็นเด็ก ผู้หญิง คนชรา ขณะนี้ถูกจับกุมมากว่า 40 วันแล้ว สำหรับตัวประกันคนไทยตนหวังว่าน่าจะอายุไม่มากนัก ส่วนตัวยังหวังว่าจะมีข่าวดี และกำลังรอด้วยใจจดจ่อ เพราะมองว่าคนไทยไม่ใช่ความขัดแย้งโดยตรงระหว่างอิสราเอล-ฮามาส และหวังว่าคนไทยจะได้รับการปล่อยเป็นกลุ่มถัดไป ซึ่งมองว่าหากมีการปล่อยตัวประกันจะปล่อยมาทางชายแดนอิสราเอล

          ทูตไทยในเทลอาวีฟ ยอมรับว่า ขณะนี้ มีแรงงานกลับไปอิสราเอลหลักสิบคน แม้รัฐบาลยังไม่แนะนำเพราะกังวลในเรื่องสถานการณ์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสู้รบ และยังมีการยิงจรวดเข้ามาในกาซ่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย. มีการยิงจรวดเข้ามาในกรุงเทลอาวีฟด้วย อยากบอกว่าให้แรงงานไทยประวิงเวลาที่จะกลับเข้าไปอีกครั้งก่อน ยังมีแรงงานในพื้นที่สีแดงประมาณ 300 คนสมัครใจอยู่ สถานทูตไปรับหลายครั้งแต่ไม่กลับ

          ด้านอิสราเอลเปิดรับแรงงานเต็มที่อีกทั้งเพิ่มเงินเดือนให้อีก สำหรับสถานทูตเองยังห่วงกังวลแต่ก็เข้าใจแรงงาน เนื่องจากกลับมาไทย อาจจะยังไม่มีงานทำ ทราบว่ามีแรงงานแอบเข้าไปทำงานในอิสราเอล เนื่องจากมีการสื่อสารในกลุ่มแรงงาน ทำให้สถานทูตทราบ โดยแรงงานไม่ได้เดินทางไปอิสราเอลโดยตรง แต่เดินทางผ่านประเทศอื่นไปอิสราเอล ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่อิสราเอลสัญญาว่าถ้าแรงงานเข้าไป อิสราเอลจะจัดสถานที่ปลอดภัยมากขึ้นให้ไปทำงาน แรงงานต้องบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยในประเด็นนี้  ในฐานะทูตไทย อยากให้รอสักนิด เนื่องจากรัฐบาลและสถานทูตกำลังจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งก่อนให้แรงงานเดินทางกลับไปอิสราเอล

          ส่วนตัวทูตไทยเองก็ต้องหลบภัยเมื่อไซเรนดัง ครั้งหนึ่งไซเรนดังขณะนั่งในรถ ต้องลงไปนอนราบบนถนน อีกครั้งนั่งไปรพ.เยี่ยมผู้บาดเจ็บไซเรนดังกะทันหันตนต้องไปขอหลบภัยในบ้านข้างๆ ตามกฎหมายอิสราเอลสามารถทำได้ โดยให้สามารถไปหลบบ้านใครก็ได้เมื่อไซเรนดัง

#สงครามอิสราเอลฮามาส

#ปล่อยตัวประกันไทย