ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯลงบทความทางหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ปฏิเสธกระแสเรียกร้องจากหลายฝ่ายทั่วโลกที่ขอให้อิสราเอลหยุดยิงในเขตฉนวนกาซา ระบุว่า การหยุดยิงจะไม่ทำให้บรรลุเป้าหมายคือ สันติภาพที่ยั่งยืนในเขตฉนวนกาซา ระบุว่า ตราบเท่าที่กลุ่มฮามาสยังคงยึดอุดมการณ์การทำลายล้างอิสราเอล การหยุดยิงไม่ใช่แนวทางแห่งสันติภาพ
สำหรับกลุ่มฮามาส การหยุดยิงคือ ช่วงโอกาสแห่งการสั่งสมจรวด การย้ายแหล่งกบดานสำหรับนักรบกลุ่มฮามาสและการรวมกลุ่มเพื่อกลับมาโจมตีอิสราเอลระลอกใหม่ในอนาคต
นายไบเดนระบุต่อไปว่า เป้าหมายของพวกเราไม่เพียงแต่หาทางยุติการสู้รบในวันนี้ แต่ต้องการจะหาทางยุติสงครามตลอดไป ยุติวงจรแห่งเหตุรุนแรงที่ไม่จบสิ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับเขตฉนวนกาซาและตะวันออกกลาง เพื่อไม่เกิดเหตุรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำอีก พร้อมทั้งขอให้อิสราเอลทำตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ลดการสูญเสียชีวิตของพลเรือน
นายไบเดนระบุเขาได้ปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลอิสราเอลระหว่างการเยือนเมืองเทลอาวีฟ เมื่อเร็วๆนี้ เตือนให้คิดการต่างๆให้รอบคอบ ไม่ให้ความเจ็บปวดและความโกรธมาเป็นเหตุผลในการโจมตีเพื่อแก้แค้น ดังเช่นที่พวกเราเคยทำผิดพลาดมาในอดีต
นายไบเดน กล่าวถึงแนวทางการคลี่คลายปัญหาพิพาทอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ระบุว่า two-state solution คือ หนทางเดียวที่จะแก้ไขปัญหาพิพาทเรื่องนี้
นายไบเดนเสนอแนะว่า เขตฉนวนกาซาจะต้องรวมอยู่ภายใต้การปกครองขององค์การบริหารปาเลสไตน์ ซึ่งปฏิรูปโครงสร้างองค์กรใหม่ให้เข้มแข็งมากขึ้น ขณะที่พวกเรารณรงค์ให้เกิดสันติภาพ เขตฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์จะต้องถูกปกครองภายใต้โครงสร้างขององค์กรบริหารเดียวคือ องค์การบริหารปาเลสไตน์ ซึ่งต้องปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ให้เข้มแข็งกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยผลักดันสู่การแก้ปัญหาแบบ two-state solution ในอนาคต
นายไบเดนประณามการก่อเหตุรุนแรงในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ระบุว่าสหรัฐฯห้ามออกวีซาสำหรับคนร้ายที่เคยมีประวัติก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่นั้นเดินทางเข้าสหรัฐฯ
การลงบทความของนายไบเดน เป็นตัวอย่างล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯที่ย้ำเตือนแก่ชาวอเมริกันว่า การสู้รบในต่างแดนกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน คำขอจากทำเนียบขาวให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับสนับสนุนด้านอาวุธแก่ยูเครนและอิสราเอลยังคงไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
#สหรัฐ
#หยุดยิงกาซา
#ปาเลสไตน์