จังหวัดอาเจะห์ อินโดนีเซียมีความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเรือผู้อพยพชาวโรฮิงญาลำที่ 3 เข้ามาในพื้นที่ภายในห้วงเวลาเพียง 3 วันมีผู้อพยพรวมกันเกือบ 600 คน
โดยเรือลำแรกเมื่อวันอังคาร (14 พ.ย.66) ผู้อพยพที่ขึ้นฝั่งเมืองปีดี จังหวัดอาเจะห์มีจำนวน 146 คน
จากนั้นในวันพุธ (15 พ.ย.) มีผู้อพยพขึ้นฝั่งที่เมืองเดียวกันอีก 194 คน พวกเขาเล่าว่า อยู่ในเรือมานานถึง 1 เดือนแล้ว
และในวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) เรือลำที่ 3 บรรทุกผู้อพยพ 249 คน พยายามจะขึ้นฝั่งที่เมืองบีรูเอน แต่ชาวเมืองไม่ยอมรับ ผลักเรือกลับออกสู่ทะเลอีกครั้ง ซึ่งต่อมาเรือขึ้นฝั่งที่เมืองมัวรา บาตู ที่อยู่ห่างไปทางใต้อีกเล็กน้อย ชาวประมงพื้นบ้านมอบอาหารและน้ำให้กับผู้อพยพ แต่ในช่วงกลางดึกกลับมีชาวบ้านออกมาขับไล่ผู้อพยพมีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง
ผู้ประสานงานของคณะกรรมการเพื่อผู้สูญหายและเหยื่อของความรุนแรงในอาเจะห์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาชาวอาเจะห์ให้การต้อนรับผู้อพยพ โดยจะพาไปพักที่สถานที่พักชั่วคราว จากนั้นจะให้ย้ายไปพักในเมืองอื่นของอินโดนีเซีย แต่ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น ตามจำนวนชาวโรฮิงญาที่เดินทางมาถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงระหว่างปี 2552 ถึง 2566 มีเรือเข้ามาประมาณ 30 ลำ โดยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนช่วงหลังการรัฐประหารเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทั้งตั้งข้อสังเกตว่า ชาวโรฮิงญาเหล่านี้เดินทางมาจากบังกลาเทศ นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำให้ชาวเมืองปฏิเสธผู้อพยพ เนื่องจากการที่เคยมีชาวบ้านที่ให้ความช่วยเหลือชาวโรฮิงญาถูกดำเนินคดีฐานสนับสนุนขบวนการค้ามนุษย์ ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้อพยพอีกต่อไป
...
#โรฮิงญา
#อินโดนีเซีย