*ศาลเยาวชนฯ ไม่รับฎีกาคดีสาวซีวิคซิ่งเก๋งชนรถตู้เสียชีวิต9ศพ*

11 พฤษภาคม 2558, 16:09น.


ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ไม่รับฎีกาคดีที่เยาวชนหญิงอายุ 18 ปี หรือ นางสาวแพรวา (นามสมมติ) ตกเป็นจำเลยในคดีความผิดฐานขับขี่รถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 9 ศพ  โดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีคำสั่งให้ยืนตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ซึ่งพิพากษาจำคุกเยาวชนหญิงอายุ 18 ปี เป็นเวลา 2 ปี แต่แก้โทษให้เพิ่มเวลารอลงอาญาจาก 3 ปี เป็น 4 ปี เพิ่มเวลาบำเพ็ญประโยชน์เป็นปีละ 48 ชั่วโมง รวม 4 ปี และห้ามขับรถยนต์จนถึงอายุ 25 ปี



คดีนี้พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางสาวแพรวา เป็นจำเลย ในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท จนเป็นเหตุในผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์  จำเลยเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค หมายเลขทะเบียน ฎว 8461 กทม.ขึ้นบนทางยกระดับโทลล์เวย์ และพุ่งชนกับรถตู้โดยสาร ทะเบียน 13-7795 กทม.วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกระเด็นตกจากทางด่วน รวม 9 ศพ คดีนี้ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2555 ว่า จำเลยมีความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย เป็นเวลา 3 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โทษจำคุก ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี โดยคุมประพฤติจำเลย 3 ปี และให้รายงานตัวทุกๆ 3 เดือน พร้อมให้ทำงานบริการสังคมโดยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเป็นเวลา 48 ชั่วโมง รวมทั้งห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ ส่วนความผิดฐานใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยใช้โทรศัพท์จริงหรือไม่ ขณะที่ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2557 แก้เป็นว่า จากที่รอลงอาญา 3 ปี ให้ระยะเวลารอลงอาญาเป็น 4 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี เป็นเวลารวม 4 ปี ส่วนโทษอื่นให้คงตามศาลชั้นต้น



ด้านนางทองพูน พานทอง ญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับในคำสั่งของศาล เพราะถือว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมถึงที่สุดแล้ว และกล่าวทั้งน้ำตา ว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี ญาติผู้เสียชีวิตไม่เคยได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากฝ่ายจำเลย จึงต้องการให้ฝ่ายจำเลย เข้ามาช่วยเหลือตามสมควร หรือแม้แต่เข้ามาพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียหายบ้าง ส่วนคดีความฟ้องร้องทางแพ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทีมทนายความ เพื่อให้คดีความทางแพ่งมีการนัดพิจารณาคดี โดยที่ผ่านมาคดีทางแพ่ง สืบพยานทั้งโจทก์และจำเลยเสร็จแล้ว 



CR:พิทักษ์คุณธรรม

ข่าวทั้งหมด

X