ผลการสำรวจของศูนย์วิจัยกิจการสาธารณะนอร์ก (NORC Center for Public Affairs Research) พบว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยกับนโยบายของประธานาธิบดี โจ ไบเดน อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันมาก บ่งชี้ถึงความแตกแยกภายในพรรค
ผลสำรวจพบว่าร้อยละ 50 ของสมาชิกพรรคเห็นด้วยกับวิธีที่ประธานาธิบดีไบเดน จัดการกับความขัดแย้ง ในขณะที่ร้อยละ 46 ไม่เห็นด้วย
อัตราการสนับสนุนยังลดลงจากการสำรวจในเดือนสิงหาคม ซึ่งในเวลานั้นมีผู้สนับสนุนที่ร้อยละ 57 และไม่สนับสนุนร้อยละ 40
ทั้งสองกลุ่มยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอล
ส่วนในประเด็นที่เกี่ยวกับผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อสงคราม ผลการสำรวจในเดือนสิงหาคม ตามความเห็นของกลุ่มที่สนับสนุนประธานาธิบดีไบเดน ที่เห็นว่าฮามาส ต้องรับผิดชอบมีอัตราที่ร้อยละ 76 แต่ร้อยละ 32 เห็นว่า อิสราเอลต้องรับผิดชอบ ซึ่งผลการสำรวจล่าสุด อัตราส่วนของทั้ง 2 กลุ่มมีความใกล้เคียงกัน คือกลุ่มที่กล่าวโทษฮามาสมีจำนวนร้อยละ 55 ส่วนกลุ่มที่กล่าวโทษอิสราเอลคือร้อยละ 56
การโจมตีของกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน และการตอบโต้ของอิสราเอลในฉนวนกาซาที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10,000 คน สร้างความตึงเครียดทางการเมืองให้กับประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งสนับสนุนอธิปไตยของอิสราเอลมาตลอด แต่ในเวลาเดียวกันเขายังกดดันให้รัฐบาลอิสราเอล ลดความสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บของประชาชน และยอมให้กลุ่มรณรงค์นำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชนในฉนวนกาซา
ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ยังทำให้การเลือกตั้งใหม่ของประธานาธิบดีไบเดนมีความยุ่งยากมากขึ้น ในขณะที่เขาต้องพยายามสร้างสมดุลระหว่างกลุ่มต่างๆ ภายในพรรค
เมื่อวันอังคาร (7 พ.ย.66) สมาชิกพรรคเดโมแครต มากกว่า 20 คนลงคะแนนเสียงตำหนิ ส.ส.ราชิดา ทลาอิบ ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายปาเลสไตน์เพียงคนเดียวในสภาคองเกรส ที่กล่าววิพากษ์วิจารณ์อิสราเอล และเรียกร้องให้หยุดยิงในฉนวนกาซา รวมถึงให้มีการหาแนวทางเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์
…
#โจไบเดน
#เดโมแครต
#สหรัฐอเมริกา
#อิสราเอล