ชาวอเมริกันไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่น ตัวแปรสำคัญ เลือกตั้งผู้นำสหรัฐ ในปีหน้า

         บีบีซีรายงานว่า ชาวอเมริกันไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งระดับท้องถิ่นในวันอังคาร(7 พ.ย.) แม้จะไม่ใช่การเมืองระดับชาติ ซึ่งจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า แต่การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นนับว่ามีความสำคัญต่อการเมืองของสหรัฐฯ โดยประชาชนในบางรัฐเข้าคูหาเลือกตั้งเพื่อใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ และสมาชิกสภาท้องถิ่น ขณะที่ชาวอเมริกันบางคนเห็นความสำคัญในการที่รัฐบาลท้องถิ่นจะผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายจำกัดสิทธิ์การทำแท้ง ซึ่งในขณะนี้ เจ้าหน้าที่เลือกตั้งประจำรัฐต่างๆของสหรัฐฯอยู่ระหว่างการนับคะแนน บีบีซีได้หยิบยกมี 3 ประเด็นหลักๆที่ชาวอเมริกันให้ความสำคัญมารายงานดังนี้

         ข้อแรก 1 คือ เรื่องการทำแท้งยังคงเป็นปัญหาที่ชาวอเมริกันให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ โดยเฉพาะผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในรัฐโอไฮโอส่วนใหญ่(ร้อยละ 56) เห็นชอบกับการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญของรัฐโอไฮโอ เพื่อให้คุ้มครองสิทธิ์การทำแท้ง นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้จะส่งผลดีต่อพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีหน้า ก่อนหน้านี้ ศาลสูงสุดของสหรัฐฯมีคำชี้ขาดในปีที่แล้วให้จำกัดสิทธิ์การทำแท้งทั่วประเทศ ซึ่งบีบีซีมองว่า ชาวอเมริกันที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ซึ่งอาจจะมีผลต่อแพ้-ชนะของการเมืองระดับชาติ

        นอกจากนี้ ที่รัฐเวอร์จิเนีย การทำแท้งเป็นหนึ่งในนโยบายที่นักการเมืองท้องถิ่นใช้ในการรณรงค์หาเสียงก่อนการเลือกตั้งเมื่อวานนี้เช่นกัน นักวิเคราะห์คาดว่า พรรคเดโมแครตจะครองที่นั่งด้วยเสียงที่เฉียดฉิวในวุฒิสภาของรัฐเวอร์จิเนีย หมายความว่า พรรคเดโมแครตยังสามารถจะขัดขวางแผนของผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย นายเกลนน์ ยังกิน จากพรรครีพับลิกัน ที่ต้องการจะเสนอให้มีจำกัดสิทธิ์การทำแท้งมากยิ่งขึ้น

        ข้อที่ 2 คือ พรรคเดโมแครตมีโอกาสชนะอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งปีหน้า รัฐเคนทักกี ซึ่งสนับสนุนนายทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2563 ทำให้นายทรัมป์ชนะประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตในรัฐนี้ ด้วยคะแนนร้อยละ 62.09 ต่อร้อยละ 36.15 นอกจากนี้ พรรคเดโมแครตไม่ค่อยชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นในรัฐนี้

        แต่ผลคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้วา นายแอนดี บีเชียร์ อายุ 45 ปี ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตชนะนายแดเนียล คาเมรอน คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน  ทำให้นายบีเชียร์ กลับเข้ามาบริหารท้องถิ่นเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากสมัยแรกในปี 2562 ชูนโยบายการไม่ทำงานการเมืองที่สร้างความแตกแยกในสังคม ทำให้พรรคเดโมแครตชนะในท้องที่ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน

        สำหรับนายคาเมรอน เป็นคนใกล้ชิดของนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ วุฒิสมาชิกอาวุโสพรรครีพับลิกัน ซึ่งหวังจะให้ผู้ว่าการรัฐแห่งนี้ช่วยปูทางพาผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันให้ชนะนายไบเดนในการเลือกตั้งระดับชาติในปีหน้า นโยบายหลักๆของนายคาเมรอน เช่น เรื่องการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ อาชญากรรมและปัญหาสังคม

        ข้อที่ 3 นักโทษออกจากเรือนแล้วเข้ามาลงเลือกตั้งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในสหรัฐฯ เช่น นายยูเซฟ ซาลาม ซึ่งเคยเป็นหนึ่งใน 5 กลุ่มวัยรุ่นผิวสีและคนเชื้อสายสเปนที่ถูกกล่าวหาโดยผิดพลาดว่า ร่วมกันรุมโทรมนักวิ่งจ๊อกกิ้งหญิงคนหนึ่งในสวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์ค นครนิวยอร์กในปี 2532 สร้างความตกใจให้กับคนทั่วทั้งนครนิวยอร์ก

        นายซาลามขณะนั้นอายุ 15 ปีถูกศาลตัดสินให้จำคุกหลายปี ก่อนที่คนร้ายตัวจริงรายหนึ่งที่เคยก่อคดีข่มขืนในลักษณะนี้มาหลายครั้งยอมรับสารภาพกับตำรวจว่าเป็นคนลงมือกระทำความผิดเพียงคนเดียว ทำให้วัยรุ่นทั้ง 5 คนพ้นความจากผิด ถูกปล่อยตัวจากเรือนจำในเวลาต่อมา

         ในการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ ผลคะแนนบ่งชี้ว่า นายซาลาม อายุ 49 ปี คว้าที่นั่งสมาชิกสภาท้องถิ่นของนครนิวยอร์ก ก่อนหน้านี้ เขาชนะการหยั่งเสียงขั้นต้นของพรรคเดโมแครตในเดือนมิถุนายน ทำให้เขาได้ลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นในนามพรรคในครั้งนี้

#การเมืองสหรัฐฯ